รองศาสตราจารย์อนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง กล่าวว่า ยังมีความกังวลต่อสถานการณ์ทางเมืองที่กำลังตึงเครียดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งมีโอกาสเกิดเดทล็อกทางการเมืองสูง เพราะรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาจะไม่มีเสถียรภาพ มองว่าตัวแปรสำคัญที่ช่วยคลายลงได้อยู่ที่ กกต. เป็นหลัก โดยต้องเลิกประวิงเวลา เนื่องจากตอนนี้สังคมกำลังกังขาการทำงานของ กกต. อย่างหนัก หลายอย่างมีพิรุธ ดังนั้น กกต. ต้องคืนความจริงให้ปรากฎกับสังคม โดยเฉพาะการประกาศผลการเลือกตั้งที่ตรวจสอบได้ และที่สำคัญจะต้องเคารพในกติกาที่กำหนด อย่าพยายามบิดเบือน หรือ แตะแบง ซึ่งจะช่วยทำให้สังคมค่อยๆ คืนสู่สภาวะปกติได้ โดยต้องดำรงสถานะอิสระอย่างเที่ยงธรรม ไม่ใช่ให้คนรู้สึกว่าเป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจของบางกลุ่ม
โดยในวันที่ 10 เมษายนนี้ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง เตรียมเดินทางไปยื่นข้อเรียกร้องต่อ กกต. ใน 3 ประเด็น คือ ให้เปิดเผยผลคะแนนการเลือกตั้งรายหน่วย เปิดสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และให้ถอนฟ้องหมิ่นประมาทประชาชน 7 คน ที่เผยแพร่ประเด็นเรื่องความโปร่งใสของ กกต.
ส่วนการใช้วิธีการทางกฎหมายดำเนินคดีกับแกนนำพรรคการเมือง ทั้งการยิบหยกเรื่องเก่าขึ้นมาเล่นงานคู่ต่อสู้ รวมถึงการนำเรื่องสถาบันมากล่าวหา รองศาสตราจารย์ อนุสรณ์ ระบุว่า จะเป็นการสร้างความขุ่นเคืองให้กับคนกลุ่มใหม่ ซึ่งเห็นได้จากการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั้งนี้มองว่าการใช้วิธีการทางกฎหมาย ยังเป็นกลไกที่เพียงต้องการสร้างความชอบธรรมให้กับกลุ่มการเมืองพรรคตัวแปรสำคัญ ที่ประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรรคการเมืองที่เป็นปฎิปักษ์กับสถาบัน
รองศาสตราจารย์อนุสรณ์ แนะว่า อยากให้กลุ่มคนที่กำลังเล่นมเกมทางการเมือง อย่าคำนึงแค่ชนะเฉพาะหน้า เพราะจะสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งใหม่ที่จัดการยาก โดยจะต้องเคารพเสียงประชาชน และต้องท่องในใจ คือไม่มีใครหยุดโลก หรือ ยับยั้งการเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นจะใช้กฎหมายบังคับตลอดไปไม่ได้ ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัว ถ้าเลือกเดินเกมด้วยการหักด้ามพร้าด้วยเข่า เชื่อว่ากลุ่มที่เดินเกมแบบนี้จะถูกขจัดออกไปเอง
