รายงานระบุว่าทหารยูเครนได้เชิญธงชาติยูเครน ขึ้นสู่ยอดอาคารที่ถูกทิ้งระเบิด ทั้งนี้ ในวิดีโอจากภาพเหตุการณ์ยังไม่ผ่านการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งได้รับการเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (11 มิ.ย.) โดยกองพลเยเกอร์ที่ 68 ของยูเครน ซึ่งระบุว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นหมู่บ้านบลาโฮแดตเน ในภูมิภาคโดเนตสก์
ฮันนา มาลิอาร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน แถลงว่า กองกำลังยูเครนยังได้ยึดคืนพื้นที่มาคาริฟกา ซึ่งเป็นหมู่บ้านถัดออกไปทางตอนใต้ โดยพวกเขาสามารถรุกคืบพื้นที่เข้าไประหว่าง 300 ถึง 1,500 เมตร ตามแนวรบด้านใต้จาก 2 ทิศทาง ทั้งนี้ หน่วยป้องกันดินแดนของยูเครนยังได้โพสต์ภาพที่ไม่ได้รับการยืนยัน ผ่านทางแอปพลิเคชัน Telegram ซึ่งแสดงให้เห็นภาพทหารที่ถือธงยูเครนเข้าไปในพื้นที่เนสคุชเน ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับตำแหน่งที่ตั้งของกองกำลังยูเครนมากที่สุด
ในการปราศรัยผ่านทางวิดีโอประจำทุกคืน โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวชื่นชมกองทหารของเขา แต่ไม่ได้กล่าวถึงพื้นที่เฉพาะที่มีรายงานการสู้รบเกิดขึ้น “แน่นอน ผมรู้สึกขอบคุณทหารของเราสำหรับวันนี้ ในแต่ละกองพลรบของเรา ในแต่ละหน่วยของเรา” เซเลนสกีกล่าว โดยอ้างถึงเฉพาะพื้นที่ 2 ส่วนหลักของการสู้รบทางตะวันออกและทางใต้
ไมโรสลาฟ เซเมเนียก โฆษกของกองพลเยเกอร์ ระบุกับสำนักข่าว Associated Press ว่า ชุดจู่โจมยูเครนในเมืองบลาโฮดาตเน ใกล้กับภูมิภาคโดเนตสก์ และซาปอริซเซีย สามารถจับกองทหารรัสเซีย 6 นาย หลังจากพวกเขาเข้าไปในอาคารหลายหลัง ซึ่งมีทหารประมาณ 60 นายหลบซุ่มอยู่ “ศัตรูคอยระดมยิงเรา แต่สิ่งนี้จะหยุดเราไม่ได้” เซเมเนียกกล่าว “หมู่บ้านต่อไปที่เราวางแผนจะยึดคืนคืออูโรเชน หลังจากนั้น (เราจะเดินทางต่อ) ไปทางใต้ต่อไป”
ในอีกทางหนึ่ง บล็อกเกอร์ทางการทหารของรัสเซียที่มีความใกล้ชิดกับทางการรัสเซียระบุว่า บลาโฮแดตเนถูกละทิ้งจากกองกำลังรัสเซีย เพราะนักรบของรัสเซียเองกังวลว่าจะถูกปิดล้อม พร้อมกันนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังคงยืนยันว่า กองกำลังรัสเซียกำลังต่อต้านการโจมตีของยูเครนในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมย้ำในแถลงการณ์ว่า ความพยายามของยูเครนในปฏิบัติการรุกทางตอนใต้ของโดเนตสก์และซาปอริซเซียในแนวหน้ารบตลอดช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมานั้น “ไม่ประสบความสำเร็จ”
พื้นที่ยูเครนทางตะวันออกเฉียงใต้ที่ถูกยึดครองโดยรัสเซีย ถูกมองว่ามีความสำคัญที่สร้างโอกาสเป็นไปได้ทางการทหารสำหรับกองกำลังยูเครน เนื่องจากการยึดดินแดนคืนในที่นั้นได้ จะทำให้ยูเครนสามารถรรุกคืบเข้าไปบนสะพานทางบกของรัสเซีย ไปยังคาบสมุทรไครเมียที่ถูกผนวกไป และแบ่งแยกกองกำลังรัสเซียออกเป็น 2 ส่วนได้สำเร็จ
มาคาริฟกาตั้งอยู่ห่างจากเมืองมารีอูปอลไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 90 กิโลเมตร ซึ่งตั้งอยู่บนทะเลอาซอฟทางตอนใต้ของสะพานเชื่อมดินแดน ทั้งนี้ รัสเซียเข้ายึดเมืองใหญ่แห่งนี้เมื่อปีที่แล้ว หลังจากปิดล้อมและทิ้งระเบิดเป็นเวลาหลายสัปดาห์ โดยรัสเซียได้สร้างป้อมปราการขนาดใหญ่ทั่วดินแดนที่ถูกยึดครองเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีตอบโต้ของยูเครน ซึ่งจะมีการใช้กองกำลังหลายพันนายที่ได้รับการฝึกฝนและติดตั้งอาวุธโดยชาติตะวันตก
มาลิอาร์ยังแถลงอีกว่า กองกำลังยูเครนยังคงปฏิบัติการโจมตีต่อไปทางตะวันออก ใกล้กับเมืองบักห์มุตที่ถูกทำลายล้าง และพวกเขารุกคืบเข้าไปได้แล้วกว่า 250 เมตร ใกล้อ่างเก็บน้ำเบอร์คีฟกา หลังจากรัสเซียกล่าวว่าพวกเขาสามารถยึดเมืองบักห์มุตเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากการสู้รบที่นองเลือดและยาวนานที่สุด นับตั้งแต่การรุกรานอย่างเต็มรูปแบบของรัสเซีย ในเดือน ก.พ. 2565 แต่ทางยูเครนกล่าวว่ากำลังเข้ายึดพื้นที่ด้านข้างของเมืองแล้ว
ที่มา: