วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนได้ร่วมงานเทศกาลถือศีลกินผักที่ศาลเจ้า ท่าเรือ กระทู้ บางเหนียว และศาลเจ้ากวนอู ไม้ขาวที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งมีตัวแทนชาวภูเก็ตมาขอพบและยื่นหนังสือขอให้พรรคเพื่อไทยสนับสนุนการจัดทำนโยบายการดูแลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้แก่ จ.ภูเก็ตเพราะเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่มีนโยบายที่ทำได้จริงและเป็นความหวังในการแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวภูเก็ตได้ อย่างไรก็ตาม ภูเก็ตตอนนี้ ต้องการความช่วยเหลือในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจอย่างมาก ในการพบกับตัวแทนชาวภูเก็ตจึงได้มีการพูดคุยแนะนำเสนอนโยบายระดับภาคและจังหวัดภูเก็ต คือ 1.บริหารระบบจูงใจนักท่องเที่ยวเชิงรุกจากประเทศต้นทางเพื่อให้เพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวให้เดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
2.พัฒนาระบบอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวเช่นเพิ่มไฟลท์บินให้นักท่องเที่ยวมาประเทศไทยเพิ่มจำนวนได้มากขึ้น 3.โครงสร้างพื้นฐานรองรับนักท่องเที่ยวเช่นระบบคมนาคมขนส่งสำหรับนักท่องเที่ยว wifiความเร็วสูงสำหรับนักท่องเที่ยว การพัฒนาอาหารสำหรับนักท่องเที่ยว และ 4.ฮาลาลทัวริสซึ่ม คือพัฒนาชุมชนมุสลิมให้มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวมุสลิมที่มีรายได้สูงจากทั่วโลก และให้เป็นแหล่งผลิตอาหารและผลิตภัณฑ์ส่งออกฮาลาลสู่โลกมุสลิม เป็นต้น
ทั้งนี้ การเดินทางมา จ.ภูเก็ตในครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับในฐานะตัวแทนพรรคเพื่อไทย อย่างอบอุ่น จากชาวภูเก็ตเป็นอย่างยิ่ง และตนเชื่อว่า ในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ชาวภูเก็ต มีความตั้งใจที่เลือกพรรคเพื่อไทยกันเป็นส่วนมากเพราะเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยคือความหวังในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้จริง
วรวัจน์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ตนได้ลงพื้นที่ จ.พังงา พร้อมกฤษ ศรีฟ้า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พังงา เขต 2 พรรคเพื่อไทย มีกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่จังหวัดพังงา นำโดยวิโรจน์ โสมจันทร์ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อตน เพื่อร้องเรียนถึงความเดือดร้อนที่ประชาชนในท้องถิ่นจังหวัดพังงาได้รับ ได้แก่ 1.ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ยังตกต่ำ ไม่ว่าจะเป็นราคายางพาราที่ได้รับการดูแลช่วยเหลือจากภาครัฐไม่ถูกทางเลยตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนในการทำการเกษตรสูงขึ้น และราคาปาล์มน้ำมันที่กำลังดิ่งลง สวนทางกับราคาปุ๋ย ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ที่ได้รับเมื่อตอนพรรคเพื่อไทยบริหารประเทศ พบว่าเกษตรกรมีรายได้ที่ควรจะได้รับขาดหายไปเป็นจำนวนมาก
และ 2.ปัญหาการพัฒนาการท่องเที่ยว ซึ่งความจริงแล้วจังหวัดพังงามีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวที่มีค่า และน่าสนใจ แต่กลับไม่ได้รับการผลักดัน และสนับสนุนจากภาครัฐเท่าที่ควร โดยทางกลุ่มฯ ขอให้พรรคเพื่อไทยช่วยหาวิธีการ และวางนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กับชาวพังงาด้วย