วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการดำรงตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 8 ปี ว่า นายกรัฐมนตรียังอีกนาน และยังเหลือเวลาอีก 7 เดือน และไม่ต้องเป็นห่วง เพราะหากถามศาลรัฐธรรมนูญไปตอนนี้เขาก็คงไม่ตอบ ส่วนจะถามได้เมื่อใดนั้น ตนมองว่า จะมีเวลาที่เหมาะสมและถูกเวลา ซึ่งใกล้แล้วและจำเป็นที่ต้องมีการพิจารณาในประเด็นนี้ แต่ไม่ใช่ว่าพอมีเรื่องแล้วถามไปก็เกรงว่าจะไม่ทัน
ส่วนที่เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ จะไปยื่นร้องในประเด็นดังกล่าว วิษณุ ระบุว่า ตนไม่ทราบ ส่วนที่เขาจะวิธีตรวจสอบอะไรก็เรื่องของเขา ส่วนหากจะใช้วิธียื่นถามศาลรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ยังถือว่าไม่มีเคื่อง และยังเหลือเวลาอีก 7 เดือน และเมื่อถามย้ำว่าหากเรืองไกร จะไปยื่นต้องไปยื่นที่ศาลรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ และเรืองไกรอาจจะไปยื่นวิธีอื่นก็ได้ พร้อมยอมรับว่าวิธีอื่นนั้นมีแต่อาจไม่ได้รับความเชื่อถือ เท่ากับศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด และตนก็เห็นตามข่าวเมื่อวานนี้เองว่า เรืองไกร ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐเนื่องจากถูกขัดขวางไม่ให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนไม่รู้เรื่อง พร้อมมองว่าเรื่องนายกรัฐมนตรีอย่างไรก็ต้องร้องในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งช่วงเวลาที่เกมาะสมควรก่อนหน้าครบวาระ 1-2 เดือน
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการเดินทางของนายกรัฐมนตรีไปประเทศซาอุดิอาระเบีย ถือเป็นสัญญาณที่ดีของประเทศไทย แต่รายละเอียดเป็นอย่างไรนั้นตนไม่ทราบ ซึ่งจะเป็นสัญญาณที่ดี เพราะไม่เช่นนั้นเขาจะมาเชิญเราไปทำไม ส่วนแนวโน้มจะมีการแต่งตั้งเอกอัครราชฑูตเข้ามาเหมือนในอดีตหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ไม่รู้ว่าเขาติดต่ออะไรกันอยู่ ขอให้รอดู
ส่วนกรณีกระแสวิพากย์วิจารณ์ ถึงกรณีที่ตำรวจ ยศ ส.ต.ต. ขับบิ๊กไบก์พุ่งชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล (หมอกระต่าย) ขณะข้ามทางม้าลายจนเสียชีวิต เหตุเกิดหน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ . ทางเจ้าตำรวจให้การว่าเกิดเหตุระหว่างที่ขับรถจัรยานยนต์ไปส่งเอกสารที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะถือว่าเป็นการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ว่า ขอให้มีความชัดเจนเสียก่อนว่าความจริงคืออะไร เพราะยังดูกันอยู่เลยว่ารถจักยานยนต์เป็นของใครถูกกฎหมายหรือไม่ มันลึกลับสลับซับซ้อน และจนสุดท้ายกลายเป็นว่า หมอคนนี้เป็นหมอที่จะรักษาตานายตำรวจที่ชนอยู่
ส่วนข้อกฎหมายว่าจะต้องหยุดรถให้ผู้ที่ข้ามทางม้าลายหรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า ต้องหยุด ส่วนต้องมีการปรับบทลงโทษให้เข้มงวดกว่าเดิมหรือไม่นั้น ขอรอให้ทุกอย่างชัดเจนก่อน แต่เริ่มต้นคือต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายนั้น อาจโดนความผิดกระทงอื่น ซึ่งความจริงรถบิ๊กไบค์จะเป็นของใครไม่สำคัญ แต่สำคัญที่ว่าใครชน คนนั้นก็ต้องผิด แต่ตอนนี้ที่กำลังดูคือมีเจตนาแทรกซ้อนอยู่หรือไม่
ส่วนตอนนี้ตำรวจกำลังถูกกังขาจากสังคม ทางสตช. ควรจะทำให้เกิดความชัดเจนอย่างไร วิษณุ กล่าวว่า ก็มีกันอยู่เสมอทุกวัน ทุกเรื่องตำรวจเป็นผู้รักษา ปราบปราม ป้องกัน เพราะฉะนั้นโอกาสที่ทำอะไรออกมาแล้วจะพลาด ไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ มันเกิดขึ้นได้เสมอเป็นธรรมดา ซึ่งอยู่ที่บังคับบัญชาที่ต้องดำเนินการในเรื่องนี้
ส่วนตอนนี้สังคมกำลังเกิดข้อสงสัยกรณีที่นายตำรวจที่ชนไปบวชสามารถบวชได้หรือไม่เนื่องจากกระทำความผิด วิษณุ กล่าวว่า สามารถบวชได้ เมื่อถึงเวลาค่อยสึกมา ส่วนไม่ใช่ลักษณะการหนีความผิดหรือไม่ คุณจำไมได้หรอก่อนหน้านี้เคยมีพิธีกร ผู้ประกาศข่าว มีเรื่องขึ้นมาตอนนั้น เขาก็ไปบวช ซึ่งไม่จำเป็นต้องให้คดีจบก่อนเพราะบวชไม่กี่วันไม่เป็นไร อย่าหนีก็แล้วกัน แม้ว่าจะเป็นการบวชโดยไม่มีกำหนดสึกใช่หรือไม่ แม้ว่าไม่มีกำหนดสึกแต่ก็ต้องสึกอยู่ดี เพราะสามารถจับสึกเมื่อใดก็ได้หากคดีชัดเจน แต่อย่าหนีก็แล้วกัน ความจริงบวชยิ่งหนียาก เพราะที่อยู่ชัดเจน ส่วนการให้การในชั้นศาลก็สามารถไปให้การได้แม้ว่าอยู่ในสมณะเพศ
ส่วนกฎหมายของรถบิ๊กไบค์กับรถจักรยานยนต์ธรรมดา ควรมีบทลงโทษแยกกันให้ชัดเจนหรือไม่นั้น วิษณุ ระบุสั้นๆเพียงว่า ยอมรับว่ามีผู้เสนอ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจ