วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีได้มีการคุยกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงกรอบการยุบสภาบ้างหรือไม่ ว่า ยังไม่ได้คุย เรื่องดังกล่าวเอาไว้คุยหลังอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152
ส่วนเวลาที่เหมาะสมที่จะคุยคือช่วงใด วิษณุ ระบุว่า หลังวันที่ 28 ก.พ.ต้องรอให้การแบ่งเขตเลือกตั้งนิ่งเรียบร้อยเสียก่อน โดยขณะนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ได้แจ้งเรื่องอะไรมาที่รัฐบาล ซึ่งตนทราบมาว่าขณะนี้กกต.ได้ส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความนิยามของคำว่า ราษฎรแล้ว
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะมีความเห็นอะไรส่งไปยังกกต.หรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า ไม่มี เว้นแต่เขาถามมา แต่เรามีเรื่องจะถาม กกต. แต่ยังไม่ถามช่วงนี้ขอรอให้ทุกอย่างนิ่งเสียก่อนคือหลังวันที่ 28 ก.พ.
ส่วนกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาวินิจฉัยเรื่องนี้นานหรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ โดยหลักไม่ควรจะนาน เพราะศาลรู้แล้วว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน ซึ่งยื่นตามช่องทางของรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันศาลอาจไม่รับพิจารณาเรื่องดังกล่าวก็เป็นไปได้เช่นกันจึงขึ้นอยู่ที่ศาล
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ กกต.ขอเวลาเตรียมตัวเพื่อเตรียมการเลือกตั้งถึงวันที่ 28 ก.พ.แต่เมื่อยื่นศาลวินิจฉัยจะส่งผลให้ระยะเวลาเตรียมตัวเลือกตั้งของกกต. ขยับออกไปหรือไม่ วิษณุ ระบุว่า ปกติเขาแบ่งตามหลักเกณฑ์ของเขาได้ ถ้าศาลออกมาแบบไหนค่อยออกมาปรับใหม่อีกครั้งก็ได้ เพราะไม่ได้กระทบหมดทุกเขตในประเทศไทย เพราะบางเขตก็ไม่มีคนต่างด้าว เท่าที่ฟังมามีอยู่ไม่กี่จังหวัด ดังนั้น 28 ก.พ.จึงแบ่งเขตออกมาได้ก่อน เช่น ประเทศไทยมีอยู่ 400 เขต ก็อาจจะนิ่งอยู่ 300 เขต โดยยอมรับว่าหากจะมีการกระทบแต่ก็น้อยมาก และไม่เป็นสาระสำคัญ แต่ที่จะเป็นสาระสำคัญคือเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับราษฎร เช่น อำเภอนี้ไม่ควรอยู่ตรงนั้น อย่างเช่น บางพื้นที่ที่เขาประท้วงกันอยู่ในขณะนี้ เพราะบางพื้นที่ที่มีฐานเสียงอยู่แล้วแต่แบ่งเขตออกไป ซึ่งการแบ่งเขตถือเป็นอำนาจเด็ดขาดของกกต. แต่ต้องรับฟังเขาก่อน โดยเมื่อฟังแล้วจะยืนยันก็เป็นเรื่องของคุณ ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องราษฎร