หนังสือพิมพ์อิตาลีรายงานว่า บ็อกดาน บิทิก ซึ่งทำหน้าที่ล่ามให้กับ คอร์ราโด ซูนิโน ผู้สื่อข่าวของลารีพับบลิกาถูกยิง ซึ่ง “เป็นไปได้มากที่สุดว่าอาจกระทำโดยพลซุ่มยิงรัสเซีย” ทั้งนี้ ซูนิโนถูกยิงที่ไหล่และกำลังรับการรักษาทางการแพทย์ โดยเขาบอกกับลารีพับบลิกาจากเตียงในโรงพยาบาลว่า เขาและบิทิกผ่านจุดตรวจของยูเครนถึง 3 จุด เมื่อพวกเขาถูกยิงอย่างกะทันหัน
“ผมได้ยินเสียงฟู่ และเห็นบ็อกดานนอนอยู่บนพื้น” ซูนิโนกล่าว “เขาไม่ได้เคลื่อนไหว ผมคลานออกจากแนวไฟ ผมวิ่งจนผ่านรถพลเรือนคันหนึ่ง ตัวผมเต็มไปด้วยเลือด ผมต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเคอร์ซอน”
จากคำบอกเล่าของซูนิโน เขากล่าวเสริมว่าเขาพยายามร้องเรียกหาบิทิก ซึ่งซูนิโนระบุว่าบิทิกเป็น “เพื่อนที่ดี” ของเขา แต่ไม่มีเสียงร้องตอบกลับมายังเขาแต่อย่างใด “มันสุดจะทรมานแสนสาหัส” ซูนิโนกล่าว โดยชายทั้งสองสวมเสื้อกั๊กสื่อมวลชน แต่กลับถูกโจมตีใกล้กับสะพานอานโตนีฟสกีที่ถูกทำลาย
ตามรายงานของคณะกรรมการปกป้องนักข่าว เท่าที่มีการรายงานมาจนถึงปัจจุบันนี้ มีเจ้าหน้าที่สื่อและผู้สื่อข่าวอย่างน้อย 15 คนถูกสังหารในยูเครน นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มการรุกรานอย่างเต็มรูปแบบ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 อย่างไรก็ดี จากรายงานของลารีพับบลิการะบุว่า ร่างของบิทิกยังไม่สามารถได้รับการกู้คืนออกมาจากสถานที่เกิดเหตุได้
เซอร์กี โทมิเลนโก หัวหน้าสหภาพนักข่าวแห่งชาติของยูเครน กล่าวว่าการโจมตีเป็น "อาชญากรรมสงครามครั้งใหม่ของรัสเซีย" ในขณะที่เขาเรียกร้องให้กลุ่มและหนังสือพิมพ์อิตาลีอย่างลารีพับบลิกา ทำอะไรมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อปกป้องผู้สื่อข่าวชาวยูเครน
"ผมสบายดี แต่ผมเสียใจที่ต้องสูญเสียเพื่อนไป” ซูนิโนกล่าวในการให้สัมภาษณ์ในรายการ Breakfast Club ที่ Radio Capital “ผมไปทำภารกิจ 5 ครั้งกับบ็อกดาน ผมรู้จักเขาตั้งแต่ผมมาถึงยูเครนครั้งแรก เขากลับมายังยูเครนจากอินโดนีเซีย ที่ซึ่งเขามีภรรยาและลูกชาย 1 คน ผมเพิ่งคุยกับภรรยาของเขา พวกเขาล้วนเป็นคนที่พิเศษ ใจดี และโอบอ้อมอารี”
กองกำลังยูเครนได้ปลดปล่อยเคอร์ซอนในเดือน พ.ย. 2565 หลังจากที่เมืองนี้ถูกยึดครองโดยรัสเซีย ในช่วงต้นสัปดาห์ของสงคราม โดยตั้งแต่นั้นมา กองกำลังรัสเซียได้ล่าถอยข้ามฝั่งแม่น้ำดนิโปรออกไป และได้ระดมยิงถล่มพื้นที่ดังกล่าวด้วยการโจมตีด้วยปืนใหญ่ ขีปนาวุธ การโจมตีด้วยโดรน และสไนเปอร์เป็นประจำ
ในเดือน ธ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวชาวอิตาลี 2 คน ได้แก่ คลาวดิโอ โลกาเตลลี และ นิกโกโล เลเลสตี พร้อมด้วยล่ามของพวกเขาถูกโจมตีในการโจมตีของรัสเซีย ณ ภูมิภาคเคอร์ซอน โดยพวกเขาทั้งหมดรอดชีวิต แต่โลกาเตลลีได้รับบาดเจ็บ
ที่มา: