ต่างประเทศ
NATO จ่อซ้อมรบร่วมครั้งมโหฬาร ทุ่มหนักสุดนับตั้งแต่จุดจบสงครามเย็น
คาโวลีกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (18 ม.ค.) ว่า การซ้อมรบร่วมดังกล่าวจะเป็นการซักซ้อมการดำเนินการตามแผนระดับภูมิภาคของ NATO ซึ่งเป็นแผนการป้องกันแผนแรกที่กลุ่มพันธมิตรได้ร่างขึ้นในรอบหลายทศวรรษ โดยแผนดังกล่าวมีรายละเอียดว่า ทางกลุ่มพันธมิตรทางทหารนี้จะตอบสนองต่อการโจมตีของรัสเซียอย่างไร แม้ว่า NATO จะไม่ได้ระบุถึงรัสเซียในประกาศ แต่เอกสารทางยุทธศาสตร์ระดับสูงระบุว่า รัสเซียเป็นภัยคุกคามโดยตรงที่สำคัญที่สุดต่อรัฐสมาชิก NATO
นอกจากการมีกำลังพล 90,000 นายเข้าร่วมการซ้อมรบในครั้งนี้แล้ว จะมีเรือที่เข้าร่วมการซ้อมรับมากกว่า 50 ลำ ตั้งแต่เรือบรรทุกเครื่องบินไปจนถึงเรือพิฆาต เครื่องบินรบ เฮลิคอปเตอร์ และโดรนมากกว่า 80 ลำ และยานรบอย่างน้อย 1,100 คัน รวมถึงรถถัง 133 คัน และยานรบทหารราบ 533 คัน
“Steadfast Defender 2024 (ชื่อการซ้อมรบ) จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถของ NATO ในการจัดกำลังกองกำลังจากอเมริกาเหนือและส่วนอื่นๆ ของพันธมิตรอย่างรวดเร็ว เพื่อเสริมกำลังการป้องกันของยุโรป” NATO กล่าวในแถลงการณ์ พร้อมระบุว่าเกมสงครามดังกล่าวจะมี "สถานการณ์ความขัดแย้งจำลองที่เกิดขึ้นกับศัตรูที่ทัดเทียมกัน" คาโวลีกล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงบรัสเซลส์ หลังการประชุม 2 วันของผู้บัญชาการทหารสูงสุดระดับประเทศ
ในช่วงที่สองของการฝึกซ้อมรบ Steadfast Defender จุดเน้นของการซ้อมรบจะอยู่ที่การส่งกำลังตอบโต้อย่างรวดเร็วของ NATO ไปยังโปแลนด์ ทั้งนี้ เกมสงครามดังกล่าวคาดว่าจะยังคงจัดขึ้นจนถึงสิ้นเดือน พ.ค. ทั้งนี้ คาโวลีกล่าวว่าการซ้อมรบจะแสดงให้เห็นถึง “ความสามัคคี ความเข้มแข็ง และความมุ่งมั่นของเราที่จะปกป้องกันและกัน”
รัฐบอลติกซึ่งถูกมองว่ามีความเสี่ยงมากที่สุดจากการโจมตีของรัสเซีย จะเป็นอีกสถานที่หนึ่งของการฝึกซ้อม ในขณะที่เยอรมนีจะถูกใช้เป็นสถานที่เพื่อการซ้อมรบเช่นกัน เนื่องจากเยอรมนีเป็นศูนย์กลางในการเสริมกำลังและประเทศที่อยู่ติดกับพันธมิตรต่างๆ รวมถึงนอร์เวย์และโรมาเนีย โดยกองทหารที่เข้าร่วมในการซ้อมรบดังกล่าว จะมาจากกลุ่มประเทศ NATO และสวีเดน ซึ่งหวังว่าจะเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO ในเร็วๆ นี้
ในการประชุมสุดยอด NATO เมื่อปี 2566 ที่กรุงวิลนีอุส ประเทศลิทัวเนีย กลุ่มพันธมิตรได้ลงนามในแผนระดับภูมิภาคที่จะยุติยุคอันยาวนานของกลุ่มทหาร โดยไม่เห็นความจำเป็นสำหรับแผนการป้องกันขนาดใหญ่อีกต่อไป เนื่องจากทางกลุ่มได้มุ่งเน้นการทำสงครามต่างๆ ไปที่ภูมิภาคตะวันออกกลางหรืออัฟกานิสถาน โดยก่อนหน้านี้ NATO มีความรู้สึกที่มั่นใจว่าจะไม่มีภัยคุกคามจากรัสเซียอีกต่อไป
การซ้อมรบร่วมของ NATO ครั้งสุดท้ายที่มีขนาดใกล้เคียงกันคือ การซ้อมรบรีฟอร์เกอร์ที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามเย็นเมื่อปี 2531 โดยในการซ้อมรบร่วมครั้งนั้นมีกำลังพลเข้าร่วม 125,000 คน ตามมาด้วยการซ้อมรบ Trident Juncture ในปี 2561 ที่มีกำลังพลเข้าร่วม 50,000 คน ตามการระบุของ NATO
ที่มา:
