เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือระบุถึงแผนการอนุมัติอุปกรณ์ต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์และเคมีให้ยูเครน ก่อนระบุไปยังรัสเซียว่าให้หยุดการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการใช้ “อาวุธนิวเคลียร์อันทรงแสนยานุภาพ” ก่อนที่สโตลเทนเบิร์กจะย้ำถึงวาทกรรมที่รัสเซียพยายามสร้างขึ้นซ้ำๆ เพื่อนำไปสู่การใช้อาวุธเคมีในดินแดนของยูเครน
“ผมคาดว่าพันธมิตรจะลงมติเห็นด้วยกับการมอบการสนับสนุนเพิ่มเติม” รวมถึง “อุปกรณ์ที่จะช่วยให้ยูเครนปกป้องตนเองจากภัยทางเคมี ชีวภาพ รังสี และนิวเคลียร์” สโตลเทนเบิร์กระบุก่อนการประชุมขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ทั้งนี้ สงครามในยูเครนที่ก่อโดยรัสเซียเดินหน้าเข้าสู่เดือนที่สองแล้ว
อย่างไรก็ดี เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือปฏิเสธจะให้รายละเอียดว่าอุปกรณ์ที่องค์การจะส่งไปให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครนจะมีอะไรบ้าง โดยมีการคาดากรณ์ว่าอุปกรณ์ต่างๆ อาจจะหมายรวมถึงหน้ากากและชุดป้องกัน อย่างไรก็ดี คำพูดของสโตลเทนเบิร์กสะท้อนให้เห็นท่าทีของพันธมิตรองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือต่อรัสเซียที่กำลังมองว่าอนาคต รัสเซียอาจมีการใช้อาวุธนิวเคลียร์และเคมีในยูเครนจริง
ก่อนหน้านี้ ดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียออกมาแถลงว่า รัสเซียพร้อมใช้อาวุธนิวเคลียร์ตอบโต้หากรัสเซียรู้สึกว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับ “ภัยคุกคาม” ส่งผลให้สโตลเทนเบิร์กออกมาระบุว่า การที่รัสเซียขู่ว่าตนพร้อมจะใช้อาวุธนิวเคลียร์นั้น "อันตรายและ… ขาดความรับผิดชอบ"
นอกจากนี้ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือระบุว่า ทางองค์การ “มีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการใช้อาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพ” ในยูเครน หลังจากที่รัสเซียออกมาอ้างว่ายูเครนมีการเตรียมการใช้อาวุธดังกล่าวเพื่อสร้างสถาการณ์ในการใส่ร้ายกองกำลังของรัสเซียบนดินแดนยูเครน
สโตลเทนเบิร์กย้ำว่า รัสเซียไม่มีหลักฐานยืนยันได้แน่ชัดเพื่อรองรับข้อกล่าวหาที่ตนมีให้กับทางฝั่งยูเครนและตะวันตก โดยองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือกล่าวว่า ความพยายามในการใช้วาทกรรมใส่ร้ายยูเครนดังกล่าวของรัสเซีย คือการสร้างสถานการณ์ในการใช้อาวุเธคมีในยูเครนของรัสเซียเสียเอง
นอกจากนี้ ในการประชุมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือในวันนี้ โปแลนด์อาจจะเสนอในที่ประชุมเพื่อให้เกิดการจัดตั้งภารกิจพิทักษ์สันติภาพในยูเครนของกองกำลังนานาชาติ อย่างไรก็ดี ชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือยังคงสงวนท่าทีในการอนุมัติการประกาศเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้ายูเครน เพื่อที่จะไม่ลากตนเองเข้าไปมีความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซีย ซึ่งอาจยกระดับสถานการณ์ให้เลวร้ายยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือย้ำว่า “NATO จะไม่ส่งกองกำลังเข้าไปยังยูเครน” ก่อนกล่าวอีกว่าองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือไม่ได้มีส่วนร่วมกับความขัดแย้งในครั้งนี้โดยตรง แต่พร้อมสนับสนุนสิทธิในการป้องกันตนเองของยูเครน และยืนยันว่าจะปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติ
ที่มา:
https://www.aljazeera.com/news/2022/3/23/nato-to-bolster-ranks-help-ukraine-counter-chemical-attack