นิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ หรือ พปชร. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล เปิดเผยถึงกรณีการเตรียมความพร้อมรับการอภิปรายทั่วไป ตาม ม.152 ว่า เป็นการซักถามข้อเท็จจริงและให้คำแนะนำรัฐบาล ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคก็ไปเตรียมการ โดยพรรคพลังประชารัฐได้ให้ฝ่ายวิชาการและฝ่ายกฎหมาย ร่วมกันศึกษาว่ามีประเด็นใดบ้าง ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลได้มีการประสานงานกันตลอดเวลาใช่หรือไม่เพื่อรับการอภิปรายทั่วไป นิโรธ ระบุว่า ได้เตรียมประเด็นไว้ทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะ 4 ประเด็นใหญ่ของฝ่ายค้าน 

เตรียมรับมือและวิธีป้องกันเรื่ององค์ประชุมอย่างไรนั้น นิโรธ ระบุว่า ได้เตรียมพร้อมเรื่ององค์ประชุมไว้ 2 รูปแบบ โดยแบบแรกเตรียมไว้สำหรับลงมติ ซึ่งส่วนใหญ่ระเบียบวาระต่างๆจะอยู่ในวันพุธ ซึ่งส.ส.ส่วนใหญ่จะอยู่ในวันนั้น ส่วนเรื่องที่ไม่ต้องใช้องค์ประชุมจะอยู่ในกลุ่มที่ 2 ในวันพฤหัส ซึ่งเมื่อไม่ใช้องค์ประชุม ส.ส. ก็ทราบ

เชื่อว่าฝ่ายค้านสับสนในเรื่องการทำงานทำหน้าที่ จึงอยากถามกลับฝ่ายค้านว่าจะนับองค์ประชุมเรื่องอะไร เดี๋ยวนี้ทำงานสับสนมั่วไปหมดแล้ว และในการอภิปรายที่ 17-18 กุมภาพันธ์นี้ องค์ประชุมจะไม่ล่ม และฝ่ายค้านไม่สามารถหักหน้านายกรัฐมนตรีได้ เนื่องจากฝ่ายรัฐบาลจะเป็นองค์ประชุมให้ฝ่ายค้าน เพราะรัฐบาลมีวุฒิภาวะในการทำหน้าที่

ส่วนกระแสข่าวว่าพรรคเศรษฐกิจไทยจะขอร่วมอภิปรายรัฐบาลด้วยนั้น นายนิโรธ ระบุว่า ตนไม่ได้ข่าว แต่ได้ยินว่า นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเศรษฐกิจไทยจะมาเก็บข้อมูลเท่านั้น และหากพรรคเศรษฐกิจไทยใช้สิทธิอภิปรายจะถือว่าเหมาะสมหรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า สมาชิกทุกท่านมีสิทธิ 

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่นายกรัฐมนตรีขอให้พรรคภูมิใจไทย ร่วมรักษาองค์ประชุม นายนิโธกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีวุฒิภาวะในฐานะผู้นำประเทศ ก็อยากให้ส.ส.ทุกคนเข้าร่วมองค์ประชุม 

ทั้งนี้ นายนิโรธ กล่าวถึงกระแสข่าวที่พรรคพลังประชารัฐจะเลื่อนประชุมใหญ่สามัญ จากเดือนเมษายนเป็นเดือนมีนาคม ว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการเลื่อนหรือไม่ เพราะการประชุมใหญ่จะต้องจัดขึ้นหากจำไม่ผิดจะเกิดขึ้นไม่เกินเดือนเมษายน ซึ่งสามารถจัดได้ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเมษายน  

เมื่อถามว่าสาเหตุที่เลื่อนเป็นเพราะสถานการณ์ในพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบว่าเลื่อนหรือไม่เลื่อน และตนก็ไม่ทราบ เพราะยังไม่มีการประสานงานคุยกันในเรื่องนี้