วันที่ 20 ส.ค. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 19 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 วงเงิน 3.185 พันล้านบาท ในวาระที่ 2 ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยมี สุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง เป็นประธานการประชุม และได้ดำเนินการประชุมต่อเนื่องมาตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนเข้าสู่ขั้นตอนลงมติในมาตรา 29 ว่าด้วยงบประมาณของรัฐวิสาหกิจ
พิเชษฐ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้หารือต่อประธานฯ ให้กวาดกล้องถ่ายทอดสดไปให้ทั่วห้องประชุม พร้อมย้ำว่า สมาชิกฯ อย่ากดบัตรแทนกัน เพราะเท่าที่สังเกตในห้องประชุมประเมินว่าน่าจะไม่ครบองค์ประชุมแน่นอน โดย สุชาติ ตอบว่า คงจะไม่มีใครทำอย่างนั้น เพราะการเสียบบัตรแทนกันมีโทษ และได้เห็นตัวอย่างกันไปแล้ว หลังจากนั้นเป็นการรอสมาชิกมาแสดงตนเพื่อลงมติ
โดยผ่านไปครู่ใหญ่ และ สุชาติ ได้กดออดเรียกสมาชิกฯ มาแสดงตนอีกหลายครั้ง พร้อมกับเอ่ยปากให้ นิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ไปดูสมาชิกที่กำลังรับประทานอาหาร แล้วจูงแขนเข้ามา แต่แล้ว อุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ก็กล่าวขึ้นว่า ในห้องอาหารไม่เหลือใครอยู่แล้ว
หลังผ่านไปเกือบ 20 นาที สุชาติ ได้กล่าวขึ้นว่า “รอนานแล้ว ขอนัดประชุมใหม่ วันอังคารที่ 23 ส.ค. เวลา 13.00 น. วันนี้ขอปิดประชุม”
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าของการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2566 ในวันนี้ว่า หลังผ่านไปกว่า 8 ชั่วโมง ที่ประชุมสามารถลงมติเห็นชอบผ่านไปได้เพียง 5 มาตรา ประกอบด้วย มาตรา 24 กระทรวงศึกษาธิการ วงเงิน 1.21 แสนล้านบาท มาตรา 25 กระทรวงสาธารณสุข วงเงิน 3.721 หมื่นล้านบาท มาตรา 26 กระทรวงอุตสาหกรรม วงเงิน 1.673 พันล้านบาท
มาตรา 27 ส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง และหน่วยงานภายใต้การควบคุมดูแลของนายกรัฐมนตรี วงเงิน 3.61 หมื่นล้านบาท มาตรา 28 จังหวัดและกลุ่มจังหวัด วงเงิน 2.172 หมื่นล้านบาท โดยไม่สามารถพิจารณาถึงมาตรา 36 ได้ภายในวันนี้ ตามที่วิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านตั้งเป้าไว้ในช่วงต้นของการประชุม