ไม่พบผลการค้นหา
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาระบุล่าสุดว่า “จีนอ้างว่าตนเป็นกลาง แต่การกระทำของตนนั้นชัดเจนว่าพวกเขายังลงทุนผูกติดใกล้ชิดกันกับรัสเซีย” หลังจาก สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ออกมากล่าวกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ว่าตนให้การสนับสนุน “อธิปไตยและความมั่นคง” ของรัสเซีย ท่ามกลางวิกฤตสงครามยูเครนที่ยังคงเดินหน้าต่อไป

คำพูดดังกล่าวของประธานาธิบดี จีนส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาจากทางสหรัฐฯ ที่ออกมาเตือนจีนว่า จีนกำลังเสี่ยงที่จะพบกับจุดจบของการ “ยืนผิดข้างของประวัติศาสตร์” อย่างไรก็ดี จีนปฏิเสธในการประณามรัสเซียจากการรุกรานยูเครน รวมถึงถูกกล่าวหาว่าคอยให้ความช่วยเหลือทางการทูตกับรัสเซียอยู่เรื่อยๆ ตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา

จีน “ยินดีที่จะเดินหน้าให้ความสนับสนุนร่วม (แก่รัสเซีย) ในประเด็นแกนกลางของความกังวัลในด้านผลประโยชน์ และความกังวลหลักในเรื่องอธิปไตยและความมั่นคง” สำนักข่าว CCTV ของรัฐบาลจีนแถลงถึงคำพูดของสีขณะพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับปูติน

การรายงานในครั้งนี้ เป็นการรายงานถึงการโทรศัพท์พูดคุยระหว่างผู้นำจีนและรัสเซียเป็นครั้งที่สอง นับตั้งแต่ปูตินเริ่มทำการรุกรานยูเครนในวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยจากสื่อจีนระบุว่า สีชื่นชม “แรงสมดุลของการพัฒนา” ในความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างทั้งสองชาติ ตั้งแต่เริ่มต้นปีใหม่มานี้ “ท่ามกลางความโกลาหลและการเปลี่ยนแปลงของโลก”

นอกจากนี้ สีย้ำกับปูตินว่าจีนยินดีที่จะ “กระชับการประสานงานเชิงกลยุทธ์ระหว่างสองประเทศ” ในขณะที่ปูตินตอบกลับกับทางสีว่า สองชาติตกลงกันที่จะรับมือกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ จากการคว่ำบาตรของโลกตะวันตกที่ “ไม่เป็นไปตามกฎหมาย”

“มันมีการตกลงกันที่จะขยายความร่วมมือในด้านพลังงาน การเงิน อุตสาหกรรม คมนาคม และด้านอื่นๆ รับมือกับสถานการณ์ในเศรษฐกิจระดับโลก ที่เริ่มมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น จากการคว่ำบาตรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายของตะวันตก” ทางการรัสเซียแถลงหลังจากที่ปูตินและสีพูดคุยกัน

ในทางตรงกันข้าม สหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวไปยังจีนว่า ตนได้ “จับตาการเคลื่อนไหวของจีนอย่างใกล้ชิด” ตลอดระยะเวลากว่าเกือบสี่เดือนที่ผ่านมาของสงครามยูเครน และยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียอย่างจีน “ยังคงตอกย้ำสะท้อนเสียงโฆษณชวนเชื่อของรัสเซียไปทั่วทั้งโลก” และจีนได้กล่าวว่าการทำลายล้างของรัสเซียในยูเครนเป็นการ “จัดฉาก”

“ชาติที่ยืนอยู่กับ วลาดิเมียร์ ปูติน จะพบว่าตัวเองยืนอยู่ในข้างที่ผิดของประวัติศาสตร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุ ทั้งนี้ รัสเซียกล่าวหาว่าการคว่ำบาตรตนของสหรัฐฯ และชาติยุโรป เป็นต้นเหตุของสถานการณ์เศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำลง ในขณะที่โลกตะวันตกเตือนจีนว่า การให้ความสนับสนุนรัสเซียจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของตะวันตกกับจีนอย่างแน่นอน

หลังจากสงครามเย็นและความสัมพันธ์ที่ขมขื่นระหว่างสองชาติคอมมิวนิสต์ ความสัมพันธ์ของจีนกับรัสเซียเริ่มกลับมาฟื้นตัวและดีขึ้นตลอดระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เพื่อการคานอำนาจกับสหรัฐฯ และตะวันตกบนเวทีโลก โดยจีนกับรัสเซียให้ความตกลงว่า ทั้งสองจะขยายความสัมพันธ์ของตนเองไปอย่าง “ไร้ขีดจำกัด” ทั้งในด้านกาาค้าและการทหาร


ที่มา:

https://www.theguardian.com/us-news/2022/jun/15/us-china-russia-ukraine-wrong-side-history?CMP=Share_iOSApp_Other&fbclid=IwAR1lkZGzdOBtqtU2aSV7GSozC5oyBH2vniI_b0l_iNg2ufdrDexvQighzpE