วันนี้ (30 ส.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย ภูมิธรรม เวชชยชัย รักษาการรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวระหว่างการแถลงลาออก จากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ว่า ตั้งแต่เข้ามาเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ ทุก คนพยามทำงานเต็มที่อย่างดีที่สุด และสมบูรณ์ที่สุด ยิ่งได้เห็นจิตใจ และความรู้สึกของ นพ.ชลน่าน ครั้งนี้ตั้งแต่เผชิญความยากลำบากในการจัดตั้งรัฐบาลมาด้วยกัน ยิ่งเห็นความทุ่มเท ความพยายาม ที่จะแบ่งเบาภาระของพรรคไปอย่างเต็มที่
การเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้เป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่ยากลำบากมากในส่วนที่ตนอยู่ในกระบวนการการทำงานการเมืองมา 20 กว่าปี ครั้งนี้เป็นสิ่งที่ลำบากมากที่สุด เรารู้ว่าหลายเรื่องเป็นเรื่องที่อาจจะไม่สบายใจกับพี่น้องประชาชน เรารู้ว่าหลายเรื่องเป็นเรื่องที่มีความตั้งใจอยากทำให้เกิดสิ่งที่ดีที่สุดที่พี่น้องประชาชนดำรงอยู่ แต่เนื่องจากการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน
ผลการเลือกตั้งออกมา แล้วกระบวนการในการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปตามกฎกติกา ซึ่งมีปัญหามาตั้งแต่การรัฐประหารเกิดขึ้น และคณิตศาสตร์ทางการเมือง ที่จำนวนผู้ได้คะแนนเสียงมีความกระจัดกระจายแบบนี้ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลยิ่งมีความยากลำบาก ซึ่งเรายืนยันและพยามรักษาความเป็นจริงทางการเมืองกับความคาดหวังของเราให้มากที่สุดและดีที่สุด
แต่สิ่งที่เห็นอยู่ว่ามีข้อจำกัด สิ่งที่เราอยากจัดตั้งมันก็ทำไม่ได้ ด้วยความคิดเห็นทางการเมือง ความรู้สึกนึกคิด ในประเด็นปัญหาต่างๆ การมองระยะสั้น ระยะยาวในการแก้ปัญหา มีความแตกต่างกันซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของระบบประชาธิปไตย มันทำให้เราไม่สามารถรวบรวมเสียงได้
ทั้งนี้ ในวันที่เราตัดสินใจมีปีกอยู่ 2 ปีก คือทางซ้ายและทางขวาของเรา ทางปีกเดิมที่พยายามจัดตั้งมี 170 กว่าเสียง ส่วนอีกปีก ของรัฐบาลเดิมมีอยู่ 180 กว่าเสียง ส่วนเพื่อไทย 141 เสียง ซึ่งสามารถรวมได้ทั้งสองฝ่าย ถ้าเป็นรัฐบาลในภาวะปกติสามารถจัดตั้งไปทางไหนก็ทำให้มีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพได้พอสมควร แต่เมื่อต้องมีสองเงื่อนไขว่าปิ่นรัฐสภา
ซึ่งมีทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ซึ่งหลายส่วนมีความเห็นที่เป็นอิสระมีดุลย์พินิจในการพิจารณา เพราะฉะนั้นก็เห็นแล้วว่าในการ จัดตั้งรัฐบาลครั้งแรกไม่อาจไปได้ไกลกว่า 312 เสียง บวก 12-13 เสียง จากนั้นเปลี่ยนให้พรรคเพื่อไทยมาดำเนินการก็คงรวมได้แค่อีกไม่กี่เสียง พอหลังจากที่เราได้ดำเนินการตามเงื่อนไขที่คณะพรรคการเมืองที่ร่วมกันครั้งแรก ซึ่งได้ทำตามเงื่อนไขทุกอย่างแต่มีความยากลำบาก แต่เราคิดว่าเรามีความจำเป็นต้องตัดสินใจจัดตั้งรัฐบาลให้ได้เพื่อนำนโยบายสิ่งที่คิดและฝันเพื่อตอบสนองพี่น้องประชาชนมาดำเนินการจัดทำให้ได้
เพราะฉะนั้น เราจำเป็นต้องร่วมในส่วนใดส่วนหนึ่งที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ โดยจริงๆแล้วเราร่วมทุกฝ่าย เราสลายความคิดที่เป็นฝักฝ่ายและพยายามดึงทุกฝ่ายมาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเพราะเห็นว่าทุกพรรคการเมือง เข้ามาสู่กระบวนการที่เหมือนกันหมด และผ่านการตัดสินใจที่เห็นชอบจากพี่น้องประชาชนแล้ว เราจึงได้ดำเนินการให้เป้าหมายและความฝันให้เป็นจริงได้ เพราะเรารู้ว่าตลอดเวลา 9 ปี มีหลายอย่างที่เป็นการดำเนินการแก้ปัญหาซึ่งไม่พึงพอใจกับประชาชน
ภูมิธรรม ยังกล่าวว่า การตัดสินใจของเราในครั้งนี้ยากที่จะอธิบายว่ามีเงื่อนไขหรือปัจจัยอย่างไร แต่คิดว่าระยะเวลาจะเป็นเงื่อนไขและเป็นสิ่งที่จะพิสูจน์ความฝัน ความหวัง และความตั้งใจจริงของพรรคเพื่อไทย เพราะฉะนั้นสิ่งที่คณะกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งคณะรัฐมนตรี ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยได้พูดคุยกัน ตั้งใจจะทำงานอย่างเต็มที่และจริงจัง ภายใต้เงื่อนไขและข้อจำกัด และขอยืนยันว่าจะทำงานอย่างสุดความสามารถ อย่างสุดกำลัง เพื่อให้ปัญหาของพี่น้องประชาชนที่พวกเราแบกรับอยู่ได้รับการแก้ไข อย่างมากและดีที่สุดเท่าที่ทำได้
ช่วงท้ายภูมิธรรมได้กล่าวขอบคุณ นพ.ชลน่านโดยระบุว่า เสียดายท่านหัวหน้า และคิดว่าไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหรือไม่ เราก็ยังเป็นพี่น้อง เป็นคนร่วมอุดมการณ์เดียวกัน และเราจะร่วมมือกันในการทำงานให้กับพี่น้องประชาชนต่อไปโดยไม่ต้องคำนึงถึงตำแหน่งหน้าที่ที่มีอยู่ ขอขอบคุณหัวหน้า ที่ได้ร่วมทำงานกับเรามาโดยตลอด และเป็นผู้นำที่ได้นำพวกเราทุกคนมาสู่ชัยชนะในการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ในครั้งนี้