วันที่ 22 มี.ค.ที่สถานีโทรทัศน์พีซทีวี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า สถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้โควิด 19 คือการเดิมพันประเทศไทย เดิมพันชีวิตคนไทย เดิมพันอนาคตของรัฐบาล ดังนั้นที่ผ่านมาทั้งในส่วนของรัฐบาล ผู้ที่เกี่ยวข้อง แพทย์และกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงหัวหน้ารัฐบาล นายกรัฐมนตรี ต่างก็ได้ทำหน้าที่ขณะเดียวกันคนที่ไม่ได้อยู่ในส่วนของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นพรรคฝ่ายค้านหรือประชาชนกลุ่มต่างๆ ก็มีข้อเสนอแนะ
อยากบอกกับประชาชนว่าเราต้องอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงและต้องตัดสินใจอย่างเดียวกัน เมื่อรัฐบาลประกาศมาตรฐานต่างๆ แม้ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม คนไทยจะไม่มีทางเลือก ดังนั้นเมื่อรัฐบาลประกาศมาตรการใดเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล ในส่วนของประชาชนก็ปฏิบัติตามและที่สำคัญคือหากมาตรการล้มเหลวก็ต้องเป็นความรับผิดชอบของทางรัฐบาล
นายจตุพร กล่าวว่า หากองค์ประกอบของรัฐบาลสร้างความน่าเชื่อถือมาตั้งแต่ต้นสถานการณ์ของประเทศไทยจะไม่เลวร้ายถึงขนาดนี้
"คำว่าเจ็บแล้วจบ กับเจ็บๆ คันๆ ของมาตรการยกระดับกันไปเรื่อยๆ กับการแก้ปัญหานี้ แม้บอกเปิดห้างสรรพสินค้า 12 เม.ย. แต่ผมเชื่อว่า เม.ย.ยังแก้ไขปัญหาโควิด-19 ไม่ได้ อีกทั้งสภาจะเปิดสมัยประชุม พ.ค. โรงเรียนจะเปิด มิ.ย.ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเปิดได้ ซึ่งไม่มีอะไรยืนยันว่า การระบาดของโควิด 19 จะยุติเมื่อไร” นายจตุพรกล่าว
ประธาน นปช.ระบุว่า สิ่งที่จะต้องตระหนักคือประชาชนมีความยากลำบากทางเศรษฐกิจ และหากมองคนในสหรัฐอเมริกาเมื่อมีโรคระบาดเกิดขึ้น สิ่งแรกที่คนอเมริกาทำคือการตระเวนไปซื้ิอปืน เพราะเขารู้ว่า โรคระบาดมาพร้อมกับ การก่ออาชญากรรม ลัก วิ่ง ชิง ปล้น ดังนั้นการให้หยุดงาน รัฐบาลจะต้องแถลงมาตรการต่างๆ ให้ชัดขณะเดียวกัน งบประมาณแผ่นดินที่จะใช้ดำเนินการในส่วนต่างๆ ให้หยุดไว้ก่อน
เงินในส่วนต่างๆ เเม้กระทั้งการชำระหนี้ต่างประเทศ เชื่อว่าทั่วโลกเข้าใจ ดังนั้นอะไรไม่จำเป็นให้หยุดไว้ก่อน และรัฐจะต้องนำเงินเหล่านั้นมาเยียวยาประชาชน เพราะมาตรการที่บอกว่าให้อยู่บ้านเพื่อชาตินั้นจะมีปัญหาคือ อยู่บ้านแล้วจะกินอะไร ดังนั้นมาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ
"วันนี้รัฐบาลต้องคิด นอกจากคิดในการต่อสู้ทำสงครามกับโควิด-19 แล้วจะต้องทำให้คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นอย่างไร โดยเฉพาะบรรดากลุ่มทุนที่รัฐบาลจะต้องเจรจา เพราะท้ายที่สุดกลุ่มทุนเป็นกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุด และมีเพียงไม่กี่กลุ่มเท่านั้น คุยให้ชัดว่าให้ลดกำไรลงมา และมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนกันอย่างไรในระหว่างการตกงานในช่วงนี้" นายจตุพร กล่าว