ถือเป็นการสยบข่าวลือถึง ‘ป๋าเปรม’ เกี่ยวกับสุขภาพทั้งหมด เพราะยังคงมีสุขภาพแข็งแรง ยืนตัวตรง มือแนบลำตัว ตามสไตล์ ‘นายทหาร’ ที่ยังเป๊ะอยู่ แม้จะอายุครบ 98 ปี เมื่อ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา

และเป็นการออกงานทางการครั้งแรกในรอบเกือบ 2 เดือน หลังไปทำบุญวันเกิด 26 ส.ค. 2561 ที่วัดราชบพิธฯ แม้ที่ผ่านมา ‘ป๋าเปรม’ จะเข้า รพ.พระมงกุฎเกล้า แต่ก็เป็นการตรวจร่างกายตามวงรอบ ซึ่งต้องตรวจอย่างละเอียด จึงต้องพักค้าง 1-2 คืน โดย เฉพาะสุขภาพขาของ ‘ป๋าเปรม’ จึงทำให้ไม่สามารถยืนนานได้มากนัก

ล่าสุด ‘ป๋าเปรม’ ได้เปิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ ให้ ‘มหาเธร์ โมฮัมหมัด’ นายกฯ มาเลเซีย เข้าพบในฐานะเพื่อน หลังไม่ได้พบกันอย่างเป็นทางการมากว่า 30 ปี ซึ่งทั้งคู่ยังคงเขียนจดหมายถึงกัน ผ่านช่องทางการทูตของกระทรวงการต่างประเทศหรือสถานทูต เพราะเป็น ประธานองคมนตรี และการันตีว่าจดหมายถึงมือแน่นอน

ทั้งคู่รู้จักกันมาเกือบ 40 ปี ตั้งแต่ยุคปี 2520 โดยพล.อ.เปรม วัย 98 ปี เป็น นายกฯ ปี 2523-2531 ส่วน ‘มหาธีร์’ วัย 92 ปี เป็น นายกฯ ช่วงปี 2524-2546 และกลับมาเป็น นายกฯ อีกครั้ง ในปีนี้ ซึ่งต่างสนิทสนมกัน เพราะไทยและมาเลเซียต่างช่วยเหลือกันด้านความมั่นคง ทั้งปัญหาโจรจีนคอมมิวนิสต์ในฝั่งมาเลเซีย และปัญหาการแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของไทยในสมัยนั้น

โดย พล.อ.เปรม ได้ออกมายืนรอต้อนรับ ‘มหาธีร์’ พร้อมทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ยิ่งคอนเฟิร์มว่า พล.อ.เปรม มีสุขภาพที่แข็งแรง เดินคล่องแคล่ว ไม่เป็นไปตามข่าวลือแต่อย่างใด

“ทั้งสองฝ่ายต่างถามสารทุกข์สุกดิบ และสุขภาพ โดยป๋าเปรมยินดี ที่ ดร.มหาธีร์ ได้เป็นนายกฯ ตามความต้องการของประชาชนชาวมาเลเซียอย่างท่วมท้น ซึ่งดีใจที่ได้พบเพื่อนอีกครั้ง” พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์ นายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม เผย

ซึ่ง ‘ป๋าเปรม’ ก็ทราบดีถึงกระแสข่าวลือเชิงลบที่พูดถึงสุขภาพ ที่ลือถึงขั้นไม่สบายหนัก แต่ ‘ป๋าเปรม’ ก็ยังคงเดินออกกำลังกายเดินในบ้านสี่เสาเทเวศร์ตามปกติ ดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี ทั้งการไม่ทานของทอด เน้นการทานผักและปลา และยังคงติดตามข่าวสารผ่านหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์เสมอ รวมถึงการเล่นเปียโนและร้องเพลงด้วย

“ที่ผ่านมามีข่าวลือ ถึงขั้นบอกว่า นอนเป็นผักก็มี แต่ก็ได้เห็นแล้วว่าป๋าปกติดี ไม่เป็นตามข่าว ส่วนการออกงานก็ต้องเลือกว่าจะไปออกงานหรือไม่ ซึ่งตอนเห็นข่าวเรื่องป่วยหนัก ป๋าก็กำลังเดินออกกำลังกายพอดีด้วย” พล.อ.พิศณุ กล่าว

อีกทั้งมีการเผยแพร่ภาพทหารขนสิ่งของออกจากราชตฤณมัยสมาคมฯ หรือ สนามม้านางเลิ้ง ที่มีการไปปล่อยข่าวว่าเป็น ‘บ้านสี่เสาเทเวศร์’ ซึ่ง ‘ป๋าเปรม’ ก็ทราบว่ามีข่าวแบบนี้ออกมา แต่ก็เลือกที่จะไม่ตอบโต้ และไม่ได้ซีเรียสหรือกังวลใดๆ ซึ่ง ‘ป๋าเปรม’ ก็ยิ้มเมื่อได้ยินข่าว และรอให้ความจริงปรากฏ สยบข่าวต่างๆ ลงไปเอง

โดยระยะเวลานี้จึงยังไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงมากนัก ทุกอย่างยังคงเป็นเพียง ‘ข่าวลือ’ ที่เกิดขึ้น ซึ่งเวลาจะเป็นบทพิสูจน์ทั้งหมด

อีกความเคลื่อนไหวที่ถูกจับตาไม่น้อย หลัง ‘บิ๊กแดง’ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ไม่รับประกันจะมี ‘ปฏิวัติ-รัฐประหาร’ หรือไม่ หากไม่มีการจราจลเกิดขึ้น ก็จะไม่มี และชี้ว่าการเมืองเป็นสาเหตุของการรัฐประหาร

ทำให้เรื่องนี้ถูกนำไปถามถึง ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ แห่ง คสช. ทั้ง ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ที่คุมกองทัพมาตลอด 4 ปี ยุค คสช. ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ พล.อ.อภิรัชต์ มาตั้งแต่สมัยเป็นผบ.ทบ. เมื่อ 10 ปีก่อน ในยุคสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง และ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่หนุน ‘บิ๊กแดง’ ให้กลับสู่ ‘เส้นทางเหล็ก ทบ.’ จนได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.

โดย พล.อ.ประวิตร ระบุสิ่งที่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวนั้นว่า “ไม่ได้ขู่ แต่ ผบ.ทบ.บอกว่า ถ้าสถานการณ์ไม่เรียบร้อย เกิดจลาจล ก็เท่านั้น แต่ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ไม่มีอะไร” และ “สงบมา​ 4 ปีแล้ว​ ผบ.ทบ.พูดเรื่องจริง​ ไม่มีอะไร และในฐานะที่ผมดูแลความมั่นคง​ ก็เห็นแล้วว่าไม่มีอะไร​”

(พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.)

การทำงานระหว่าง พล.อ.ประวิตร กับ พล.อ.อภิรัชต์ ไร้รอยต่อแน่นอนในยุคนี้ โดยมี พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม เพื่อนตท.20 กับ พล.อ.อภิรัชต์ ที่เป็นนายทหารคนสนิทของ พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ประสานงานระหว่างกัน

ด้าน พล.อ.อน���พงษ์ ระบุว่า “ท่านก็พูดชัด ผมไม่ขอขยายความ ท่านระบุว่าหากประเทศไม่มีความขัดแย้งอีกแล้ว ไม่มีการใช้กำลังกัน พรรคการเมืองใช้อำนาจในทางที่ถูก โดยไม่ขัดแย้งกัน ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น”

ในช่วงสมัยที่ พล.อ.อนุพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. และ พล.อ.อภิรัชต์ เป็น ผู้การ ร.11 รอ. ที่ต้องเผชิญกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญ คือ ‘เสธ.แดง’ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล อดีต ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. ได้ออกมากล่าวโจมตี พล.อ.อนุพงษ์ ในเรื่องต่างๆ ทำให้ พล.อ.อภิรัชต์ ร่วมกับ ‘เพื่อนตท.20’ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวปกป้อง ‘บิ๊กป๊อก’ และกองทัพบก

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ปฏิเสธตอบเรื่องนี้ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ปัดโธ่ คุณก็พูดไปเรื่อยแหละ ไม่มีใครเขาอยากทำหรอก อย่าขุดคุ้ย พูดไปเรื่อย” ซึ่งมีการมองว่า นายกฯ รีบตัดจบเพราะคำถามนี้จะ ‘เข้าตัว’ ได้ อีกทั้งเป็นการ ‘สยบคลื่น’ รัฐประหารลงไป หากในอนาคตรัฐบาลมีนายกฯ ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ นั่นเอง

ซึ่ง พล.อ.อภิรัชต์ ได้ชื่อว่าเป็นน้องรักต่างสายของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่ใช่สายทหารเสือฯหรือ บูรพาพยัคฆ์ แต่เป็นสายวงศ์เทวัญ ที่ นายกฯ ไว้วางใจอย่างมาก นับตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์รัฐประหาร เพราะในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พล.อ.อภิรัชต์ ถูกโยกไปเป็น เป็น ผบ.พล.ร.11 ฉะเชิงเทรา และ ผบ.มทบ.15 เพชรบุรี แต่ก่อนรัฐประหาร 1 เดือน พล.อ.ประยุทธ์ ได้โยก พล.อ.อภิรัชต์ ขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ. ดูแลพื้นที่กรุงเทพชั้นใน และได้รับความไว้วางใจจากนายกฯ ดูแลงานจัดระเบียบต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ การควบคุมราคาสลาก โดยนั่งเป็น ปธ.บอร์ดสลากฯ นั่นเอง

“ผมมีความคุ้นเคยกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่มีเรื่องส่วนตัวกับท่าน เพราะท่านใช้ผมทำงานมาโดยตลอด เดือนหนึ่งได้เจอกัน 5 ถึง 10 นาทีก็เต็มที่แล้ว ผมถึงบอกว่ามีความเป็นกลางและก่อนผมเป็น ผบ.ทบ. ผมเจอท่านในเวลาสั้นๆ ถือว่าเก่งแล้วในชีวิตนี้เคยนั่งคุยกับท่านไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่ได้เห็นความรัก ความรู้ ความทุ่มเทในการทำงานของท่าน ซึ่งเป็นแบบอย่างหนึ่งของผมในการดำเนินงานด้านราชการและถ้าวันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตัดสินใจ บ้านเมืองจะเกิดอะไรขึ้น ผมว่าการตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่อยู่ที่ประชาชน" พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว

ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ ‘รับประกัน’ ได้ว่า อย่างน้อยก็ไม่น่ามี ‘ปฏิวัติซ้อน-รัฐประหารซ้ำ’ ในยุคคสช.ได้ในเวลานี้ แต่อย่าลืมว่าเหตุการณ์ทางการเมืองสามารถพลิกได้ตลอด ปรากฏการณ์ 'ทหารปฏิวัติตัวเอง' ก็มีมาแล้วในอดีต แต่การออกมาพูดของทั้ง ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ ในครั้งนี้ ก็แสดงถึงความเป็น ‘ปึกแผ่น’ ฟากฝั่ง คสช. ได้เป็นอย่างดี ที่ต้องกรำศึกกับขั้วต้านคสช.และกองทัพ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• 'แดง' แค่ชื่อ! 'อภิรัชต์' กรำศึก 'เสื้อแดง' ยก 'ประยุทธ์' มายไอดอล