ไม่พบผลการค้นหา
อดีตประธานาธิบดีและนักการเมืองสหรัฐฯทั้งจากพรรคเดโมเครตและพรรครีพลับบริกันหลายคนต่างได้รับเชิญเข้าร่วมพิธีศพของวีรบุรุษสงครามเวียดนาม นายจอห์น แม็กเคน ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งสมองเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมพิพธีดังกล่าว
อเมริกาไม่ต้องคุยโม้โอ้อวดตนเอง เพราะไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ ดังนั้นอเมริกาของจอห์น แม็กเคนไม่ได้ต้องการทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เพราะอเมริกายิ่งใหญ่เสมอมา

นายบารัก โอบามา นายจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช นายบิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมไปถึงนางฮิลลารี คลินตันและอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเวียดนาม นายเฮนรี่ คิสซิงเจอร์ต่างได้รับเชิญเข้าร่วมพิธีศพของอดีตวุฒิสมาชิก 6 สมัยและอดีตผู้สมัครแข่งขันประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายจอห์น แม็กเคน ณ มหาวิหารแห่งชาติในกรุงวอชิงตัน หลังจากที่นายแม็กเคนเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งสมองเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา

ในพิธีอดีตประธานาธิบดีโอบามาได้ขึ้นกล่าวสดุดีอดีตคู่ท้าชิงประธานาธิบดีเมื่อปี 2008 ว่า 'จอห์น แม็กเคนเป็นบุคคลพิเศษ ผู้เป็นทั้งนักรบที่ยิ่งใหญ่ เป็นรัฐบุรุษ เป็นผู้รักชาติที่สร้างอเมริกาให้ยิ่งใหญ่...แม้ว่าเราจะแตกต่างกันหลายเรื่อง พวกเราไม่เคยสงสัยเลยว่า พวกเรานั้นอยู่ทีมเดียวกันเสมอ'



063_1029343154.jpg


"จอห์นเข้าใจเป็นอย่างดีถึงการรักษาความปลอดภัยของอเมริกาและอิทธิพลของอเมริกาที่ได้รับชัยชนะเสมอมา ไม่เพียงแต่ในการต่อสู่้ทางการทหาร ไม่เพียงแต่ในเรื่องความมั่งคั่งของเรา ไม่เพียงแค่ทำให้ผู้อื่นเห็นความตั้งใจของเรา แต่ทั้งหมดมาจากความสามารถของพวกเราในการจุดประกายผู้อื่นด้วยหลักค่านิยมสากล ทั้งหลักนิติธรรมและหลักสิทธิมนุษยชน และการยืนหยัดในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่พระเจ้ามอบให้แก่มนุษย์ทุกคน"



000_18S0S9.jpg


จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพลับริกันกล่าวถึงนายแม็คเคนครั้งสุดท้ายว่า 'ในหลายๆครั้งในช่วงชีวิตการทำงานที่ยาวนานของเขา แม้ว่าจอห์นจะเผชิญหน้ากับนโยบายและแนวทางในการปฏิบัติที่เขาเชื่อว่าไม่เหมาะสมกับประเทศของเขา แต่จอห์น แม็คเคนมักจะยืนกรานเสมือว่า เราดีกว่าสิ่งนี้ อเมริกาดีกว่าสิ่งนี้ที่เกิดขึ้น'

"จอห์นจะเป็นคนแรกที่มาบอกคุณว่า เขาไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ แต่เขาอุทิศทั้งชีวิตของเขาให้แก่อุดมการณ์ของชาติเท่าที่มนุษย์ชายและหญิงที่เพรียบพร้อมคนหนึ่งจะให้ได้"

ขณะที่เมเกน แม็กเคน ลูกสาวของนายจอห์น แม็กเคนเป็นตัวแทนของครอบครัวขึ้นกล่าวสุนทรพจน์อาลัยบิดาเป็นครั้งสุดท้าย โดยสุนทรพจน์จากครอบครัวแม็กเคนนั้นกล่าวถึงความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ที่นายแม็กเคนได้รับใช้ชาติตลอดช่วงชีวิต จนถึงบทบาทของการเป็นหัวหน้าครอบครัวและบิดาที่เป็นที่รักของลูกและทุกคนในครอบครัว นอกจากนี้เมเกนยังกล่าวพาดพิงนโยบาย 'สร้างอเมริกาให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง' ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ด้วย



063_1029304972.jpg

'เรามาอยู่ที่นี่เพื่อร่วมแสดงความเสียใจของชาวอเมริกัน...อเมริกาของจอห์น แม็กเคน คืออเมริกาที่ไม่เห็นแก่ตัวและเป็นมิตรและเป็อเมริกาที่ยิ่งใหญ่ เธอ(อเมริกา)เป็นประเทศที่มั่งคั่ง มั่งคงและปลอดภัย เธอสร้างความรับผิดชอบของตนเอง เธอเป็นคนพูดสุภาพเพราะเธอเป็นประเทศที่แข็งแกร่ง...อเมริกาไม่ต้องคุยโม้โอ้อวดตนเอง เพราะไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ ดังนั้นอเมริกาของจอห์น แม็กเคนไม่ได้ต้องการทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เพราะอเมริกายิ่งใหญ่เสมอมา'

ทั้งนี้หลังจากเมเกนกล่าวสุนทรพจน์ประโยคดังกล่าวจบลง เธอได้รับเสียงปรบมือจากผู้เข้าร่วมพิธีทั่วทั้งฮอลล์ 

สำหรับในพิธีศพของนายจอห์น แม็กเคนในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมพิธีกว่า 2,500 คน ทั้งนักการเมืองและคนสำคัญของสหรัฐฯ รวมไปถึงมารดาของนายจอห์น แม็กเคนที่มีอายุ 106 ปีเข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย แต่ทั้งนี้ทางครอบครัวแม็กเคนไม่ได้เชิญประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์๋เข้าร่วมพิพธีดังกล่าว เนื่องจากเป็นคำขอของนายจอห์นก่อนเสียชีวิตโดยระบุว่า ไม่ต้องการให้นายโดนัลด์ ทรัมป์เข้าร่วมพิธีศพของตนเอง อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ (1 ก.ย.)ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ออกรอบไปตีกอล์ฟที่รัฐเวอร์จิเนีย และทวิตข้อความเรื่อง เขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ นาฟตา (NAFTA)และไม่มีการกล่าวถึงพิธีของนายแม็กเคนแต่อย่างใด

ที่ีมา BBC / TIME

ข่าวที่เกี่ยวข้อง