ได้ชื่อว่า 'ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา' ตำแหน่งบุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ซึ่งเพรียบพร้อมด้วยสวัสดิการ และผลประโยชน์พิเศษต่างๆ มากมายทั้งระหว่างดำรงตำแหน่ง และหลังหมดวาระ แต่ระหว่างที่ผู้นำสหรัฐฯ ยังดำรงตำแหน่ง ก็มีราคาที่ต้องจ่ายในฐานะผู้นำประเทศเช่นกัน

'ราคา' ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงผลประโยชน์ทางการเมือง แต่หมายถึง 'บิลค่าใช้จ่าย' ที่ผู้นำสหรัฐฯ และครอบครัวหมายเลขหนึ่งต้องรับผิดชอบใช้เงินส่วนตัวจ่ายค่าใช้จ่ายเหล่านั้นด้วยตัวเอง เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ที่รัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบ 

ฮิลลารี คลินตัน อดีตสตรีหมายเลขหนึ่ง และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เคยระบุในหนังสือ 'ชีวิต และทางเลือก' (Hard Choices) เมื่อปี 2557 เกี่ยวกับบันทึกความทรงจำของเธอสมัยเป็นอดีตสตรีหมายเลขหนึ่ง เคียงคู่ประธานาธิบดีบิล คลินตัน (ระหว่าง พ.ศ. 2536-2544) ว่า จริงอยู่ที่ครอบครัวหมายเลขหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ในทำเนียบขาว แต่ทว่าค่าใช้จ่ายส่วนตัวของครอบครัวหมายเลขหนึ่ง อาจพุ่งขึ้นหลายเท่าตัวระหว่างที่พำนักในทำเนียบขาว

คลินตันยอมรับว่า หลังผู้เป็นสามีพ้นวาระประธานาธิบดีแล้ว 'อดีตครอบครัวหมายเลขหนึ่ง' ติดหนี้บิลค่าใช้จ่ายต่างๆ ระหว่างพำนักในทำเนียบขาวถึง 12 ล้านดอลลาร์ โดยอดีตรมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า เธอและอดีตปธน.บิล คลินตัน ต้องหาทางรวบรวมเงินจากหลายแห่ง เพื่อจ่ายหนี้ที่เกิดขึ้นระหว่างพำนักในทำเนียบ เธอยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า "หนี้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างพำนักในทำเนียบขาว ทำให้เธอตระหนักถึงภาระค่าใช้จ่ายของชาวอเมริกันที่ต้องแบกรับในชีวิตประจำวัน" อย่างไรก็ดี ครอบครัวคลินตันสามารถหักล้างหนี้จำนวน 12 ล้านดอลลาร์ ได้ในเวลาเพียงไม่นาน หลังพ้นตำแหน่ง จากการออกงานขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ การให้สัมภาษณ์ หรือการเขียนหนังสือ

"เป็นประธานาธิบดีไม่ได้มีราคาถูก"

'คลินตัน' ไม่ใช่ครอบครัวหมายเลขหนึ่งครอบครัวแรกที่แบกรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ระหว่างพำนักในทำเนียบด้วยตัวเอง ลอรา บุช อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งของประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช เคยระบุในหนังสือบันทึกความทรงจำของเธอเช่นกันว่า 'การเป็นประธานาธิบดีไม่ได้มาในราคาถูก' ช่วงที่ผู้เป็นสามีดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ทั้งสองสมัย เธอต้องรับผิดชอบจ่ายค่าอาหารเกือบทุกมื้อที่เธอ และประธานาธิบดีบุช รับประทานในชีวิตประจำวันระหว่างพำนักในทำเนียบขาว หรือที่แคมป์เดวิด บ้านพักตากอากาศประจำตำแหน่งของผู้นำสหรัฐฯ

"ดิฉันขอพูดจากใจ ห้องพักประธานาธิบดีเหมือนถูกปกปิด รายจ่ายหลายอย่าง ไม่ได้อยู่ในบอร์ด(ค่าใช้จ่าย)ของทำเนียบขาว"

'นางบุช' ยอมรับว่า มีค่าใช้จ่ายบางอย่างที่เธอไม่ได้บันทึกลงในบัญชีการเงินส่วนตัว อาทิ ค่าแฮร์สไตลิสต์ที่จ้างมาทำผมให้เธอในทุกๆวัน เช่นเดียวกับ เสื้อผ้าของดีไซเนอร์ดังที่เธอต้องซื้อเพื่อให้สมฐานะความเป็นสตรีหมายเลขหนึ่ง ลอรา บุช ยังเผยว่า เธอบันทึกค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนด้วยตัวเอง ลงรายละเอียดทุกอย่างระหว่างพำนักในทำเนียบขาว ตั้งแต่ ค่าอาหาร ค่าซักแห้ง ค่าจ้างรายชั่วโมงสำหรับพนักงานเสิร์ฟ และทีมทำความสะอาดในงานเลี้ยงส่วนตัว แม้ไม่ได้ระบุว่าอย่างชัดเจนว่า หนี้สินหลังพ้นจากทำเนียบขาวนั้นมากเท่าไหร่ แต่ระบุเพียงว่า ครอบครัวบุชมีบิลค่าใช้จ่ายหลังพ้นทำเนียบหลายล้านดอลลาร์

เช่นเดียวกับครอบครัวโอบามา ซึ่งมิเชลโอบามา เคยเผยว่าต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายพื้นฐานหลายอย่าง ตั้งแต่ยาสีฟัน จนถึง ค่าซักรีด ตลอดเวลาที่อยู่ในทำเนียบขาว 'ครอบครัวโอบามา' ก็ต้องรับผิดชอบค่าอาหารทุกมื้อที่ครอบครัวหมายเลขหนึ่งรับประทานเอง หรือจัดงานเลี้ยงส่วนตัว ไม่เว้่นแม้แต่งานเลี้ยงวันขอบคุณพระเจ้าที่จัดเป็นการส่วนตัว

เงินภาษีใช้เฉพาะงานหลวง

'ทำเนียบขาว' เป็นทั้งสถานที่ทำงานของประธานาธิบดี และยังเป็นบ้านหลวงประจำตำแหน่งของผู้เป็นประธานาธิบดีด้วย ดังนั้นค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ ประธานาธิบดีและครอบครัว ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง ไม่ต่่่่่่่่างกับครอบครัวอเมริกันโดยทั่วไป

แกรี เจ. วอลเทอร์ส อดีตหัวหน้าพนักงานในทำเนียบขาว (White House Chief Usher) มานานหลายปี อธิบายว่า ธรรมเนียมที่ครอบครัวหมายเลขหนึ่งต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตัวเองนั้น ต้องย้อนไปสมัยคริสต์ทศวรรษ 1800 ช่วงที่ จอห์น แอดัมส์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยุคนั้นทำเนียบขาวยังไม่มีพนักงานประจำทำเนียบแม้แต่คนเดียว ผู้เป็นประธานาธิบดีในยุคนั้นต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างเอง

ประธานาธิบดี และสตรีหมายเลขหนึ่ง ไม่สามารถเดินทางไปห้างสรรพสินค้าใกล้ทำเนียบเพื่อซื้อของใช้ประจำวันได้ เจ้าหน้าที่ทำเนียบจะรับผิดชอบจัดซื้อรายการสิ่งของทีี่ครอบครัวหมายเลขหนึ่งต้องการ ก่อนจะส่งบิลเรียกเก็บเงินไปยังครอบครัวผู้นำสหรัฐฯ

เช่นเดียวกับจ่ายอื่นๆ อาทิ หากผู้สหรัฐฯ จัดงานเลี้ยงส่วนตัว จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดงานนั้นทุกอย่างด้วยตัวเอง แกรีให้เหตุผลว่า ที่เป็นเช่นนี้เพราะ 'เงินภาษีประชาชนควรถูกใช้เฉพาะงานราชการเท่านั้น'

ทุกช่วงกลางเดือน สำนักงานทำเนียบขาวจะเตรียมบิลเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายส่วนตัวโดยละเอียดให้กับประธานาธิบดี และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เป็นเหตุว่าทำไมครอบครัวหมายเลขหนึ่งในอดีตหลายครอบครัวเป็นหนี้ทำเนียบขาวแม้หมดวาระไปแล้ว 

แต่ละปีสภาคองเกรงจะอนุมัติงบประมาณสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ในทำเนียบขาว ครอบคลุมตั้งแต่ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าจ้างพนักงานทุกส่วนในทำเนียบ ค่าบำรุงรักษาทำเนียบ ค่าจัดงานเลี้ยงของรัฐ ค่าอาหารในงานเลี้ยง ค่าความบันเทิง โดยค่าจัดงานเลี้ยงส่วนหลังนี้ กระทรวงต่างประเทศ พรรคการเมือง หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานนั้นๆ จะเป็นผู้รับผิดชอบ

'เซอร์ไพรส์'

ภาระค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่ครอบครัวผู้นำสหรัฐฯ ต้องรับผิดชอบ สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับภริยาประธานาธิบดีในอดีตหลายราย 

ครั้งหนึ่ง แนนซี เรแกน สตรีหมายเลขหนึ่งของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน กล่าวว่า "ไม่เคยมีใครบอกเราว่าประธานาธิบดีและสตรีหมายเลขหนึ่งจะต้องจ่ายค่าอาหารทุกมื้อ เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตั้งแต่ซักรีดจนถึงยาสีฟัน"

ขณะที่ ลอรา บุช แม้เป็นสะใภ้ของประธานาธิบดีจอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช ผู้นำสหรัฐฯ คนที่ 41 แต่ก็ยอมรับเช่นกันว่าไม่ได้เตรียมตัวต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในทำเนียบมากมายเช่นนี้ โดยนางบุช เผยว่า ปีแรกในทำเนียบขาว เมื่อฝ่ายบัญชีชี้แจงค่าใช้จ่าย เธอตระหนักได้ทันทีว่าการเป็นประธานาธิบดีมีราคา(ค่าใช้จ่าย)สูงมาก

อย่างไรก็ดี ครอบครัวประธานาธิบดีรับผิดชอบเฉพาะค่าใช้จ่ายส่วนตัวในชีวิตประจำวันเท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายระหว่างดำรงตำแหน่ง อาทิ ค่าเดินทางเยือนต่างประเทศ ค่ารักษาความปลอดภัย หรือค่ารักษาพยาบาล รัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบ โดยผู้นำสหรัฐฯ รับรายได้ต่อปีที่ราว 400,000 ดอลลาร์ บวกอีก 50,000 ดอลลาร์ สำหรับค่าปฏิบัติหน้าที่พิเศษอย่างเป็นทางการ

ที่มา : CNN , CNN , The Guardian , Businessinsider