งานวิจัยในอังกฤษชี้ว่า การที่คนเรารู้แคลอรีของอาหารที่กิน หรือเตรียมจะกิน จะช่วยให้ตัดสินใจลดปริมาณ หรือเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพได้ง่ายขึ้น
รายงานจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ในอังกฤษ พบว่าผู้บริโภคที่ทราบข้อมูลแคลอรีในอาหาร จะคิดหนักขึ้นในการเลือกรับประทาน และสามารถลดการบริโภคลงได้ 12 เปอร์เซ็นต์ โดยการศึกษาดังกล่าวรวบรวมข้อมูลจากงานวิจัย 28 ฉบับ เท่ากับว่าการระบุคุณค่าทางโภชนาการช่วยโน้มน้าวพฤติกรรมการกิน และอาจช่วยให้คนใส่ใจสุขภาพได้มากขึ้น
รายงานระบุด้วยว่า ตัวเลขแคลอรีทำให้ผู้บริโภคเลือกอาหารที่แคลอรีต่ำกว่า และสามารถลดแคลอรีที่บริโภคเฉลี่ยลงได้ราว 70 แคลอรี สำหรับมื้ออาหารที่ให้พลังงาน 600 แคลอรี ซึ่งเป็นปริมาณที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ชาวอังกฤษส่วนใหญ่บริโภคอาหารเกินกว่าที่ตัวเองคาดไว้เฉลี่ยวันละกว่า 1,000 แคลอรี โดยที่ผู้หญิงมักบริโภคเกินราว 800 แคลอรี
ด้านสำนักงานสาธารณสุขของอังกฤษได้เตรียมเปิดแคมเปญให้ประชาชนจำกัดการบริโภคอาหารมื้อกลางวันและเย็นที่ 600 แคลอรี และมื้อเช้าที่ 400 แคลอรี เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการกินที่ดีต่อสุขภาพ และลดความเสี่ยงการเป็นโรคอ้วน หรือโรคอื่น ๆ ที่มีสาเหตุจากการกิน