มหานครนิวยอร์กได้ออกประกาศห้ามโฆษณาในพื้นที่สาธารณะและบริเวณใกล้เคียงพื้นที่พักอาศัยแล้ว หลังระบุว่า การโฆษณาชวนเชื่อลักษณะนี้ ส่งผลต่อพฤติกรรมอยากลองของเยาวชน และนำมาซึ่งความเสียหายในภายหลัง
นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก นายบิล เดอ บลาซิโอ ได้ลงนามในประกาศของเมือง ห้ามการติดป้ายโฆษณาเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาโดยตรงจากแบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือการโฆษณาทางอ้อมที่สื่อถึงการเชิญชวนให้ดื่มแอลกอฮอล์ ในสถานที่สาธารณะและพื้นที่ใกล้เขตที่พักอาศัย หรือสถานที่สำคัญต่างๆ และยังรวมไปถึง ป้ายรถประจำทาง แผงขายหนังสือพิมพ์ และจุดให้บริการสัญญาณไว-ไฟ รวมถึงสาธารณะอีกด้วย
โดยบิล เดอ บลาซิโอ ได้กล่าวว่า ปัจจุบัน 3 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่โฆษณาในเมืองนั้น ใช้สำหรับการโฆษณาแอกอฮอล์ ซึ่งในปี 2018 ที่ผ่านมา เมืองมีรายได้จากการโฆษณาส่วนนี้ถึง 2.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่รายได้ที่จะเสียไปจากมาตรการห้ามการโฆษณานี้ถือว่าคุ้ม หากเทียบกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากรายงานของสำนักงานสาธารณสุขนครนิวยอร์กระบุว่า สถิติผู้เสียชีวิตในพื้นที่จากสาเหตุซึ่งเกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์อยู่ที่ราว 2,000 ราย และการเข้ารับการรักษาฉุกเฉินจากอาการเจ็บป่วยซึ่งเกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์สูงถึง 110,000 ราย ในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ในขณะเดียวกัน ผลการวิจัยโดยสำนักงานเลขานุการนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก เมื่อปี 2017 พบว่าการติดตั้งป้ายโฆษณาเกี่ยวกับแอลกฮอล์ในสถานที่สาธารณะ ล้วนมีอิทธิพลต่อสภาพจิตใจ และเพิ่มความเป็นไปได้ให้แก่บุคคลในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงปริมาณในการดื่ม โดยเฉพาะกับเยาวชนที่กำลังอยากทดลอง และกลุ่มคนเหล่านี้ก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นมาตรการนี้จึงเป็นตัวช่วยสำหรับการแก้ไขปัญหาระยะยาว