รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 21 เมษายน 2563
เมื่อ “อ.วิโรจน์-อ.หญิง” ฟัง “วีรนันต์” อ่านจดหมายที่ “บิ๊กตู่” เขียนถึง “เจ้าสัว” แม้ เกริ่นนำว่าไม่รับเป็นตัวเงิน แต่เมื่ออ่านถึงท่อนที่ “ขอให้ลงมือทำโครงการที่จะออกไปช่วยเหลือประชาชน” ก็ฟันธง! ได้ “นี่คือการไถ”
ชื่นชม! แนวคิด “หมอเสริฐ” เจ้าสัวอันดับ 11 ของไทย ให้ 100 ล้าน แก่ท้องถิ่น รับมือภัยแล้ง สร้างแหล่งน้ำ แต่ขอให้รัฐเปิดทางขุดบ่อบาดาล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการส่งจดหมายเปิดผนึกไปยัง 20 มหาเศรษฐีของไทยเพื่อรับทราบการดำเนินการช่วยเหลือบุคลากรในแต่ละองค์กรอย่างไรบ้าง เพื่อจะช่วยเสริมในมาตรการของรัฐบาลที่ออกไปแล้ว ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลไม่ได้จะกู้เงินหรือยืมเงินของเขา รัฐบาลมีเงินอยู่แล้ว
ขอขอบคุณทั้ง 20 ท่าน การส่งจดหมายโดยเปิดเผยเพราะในห่วงโซ่ของท่านมีคนจำนวนมาก รวมถึงประชาชนด้วย ทราบว่าทุกท่านดำเนินการเรื่องนี้อยู่แล้ว แค่อยากทราบว่าจะทำอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อเสริมมาตรการของรัฐบาล ทั้งนี้ เพื่อให้สอดประสานกันในการทำงาน ไม่ได้แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น ขอขอบคุณเป็นการล่วงหน้า ไม่ใช่การแข่งขัน บังคับหรือแลกเปลี่ยนใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ต้องการตรงนั้น แต่ต้องการระดมความเห็นจากทุกภาคส่วน ซึ่งนอกจาก 20 ท่านนี้แล้ว ยินดีรับฟังทุกภาคส่วน แต่คงไม่ได้ไปพบทั้ง 20 ท่านด้วยตนเอง เห็นมีรายชื่อประกาศมาแล้ว ในเอกสารเปิดผนึก มีรายละเอียดไว้ชัดเจนว่าไม่ขอรับเงินบริจาคใด ๆ ทั้งสิ้น ขออย่าไปบิดเบือนก็แล้วกัน”
ขณะที่ มติชนออนไลน์ รายงานว่าจดหมายที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำหนังสือถึงมหาเศรษฐี โดยลงวันที่ 20 เม.ย. ระบุว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 เป็นวิกฤตร้ายแรงของประเทศและของโลก ทำร้ายและทำลายชีวิต ความสัมพันธ์ทางสังคมและเศรษฐกิจไปพร้อมกัน อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นช่วงเวลาที่คนไทยและประเทศไทย ต้องการความร่วมมืออย่างมากที่สุดจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคน หรือองค์กรที่มีความรู้ ความ สามารถ มีความเข้มแข็ง จึงสื่อสารมายังท่านในฐานะเป็นผู้อาวุโสของสังคม
ผมซาบซึ้งใจที่หลายท่านลงมือช่วยเหลือประชาชนไปแล้วหลายเรื่อง แต่ผมต้องการขอให้ทุกท่านทำเพิ่มเติม โดยใช้ศักยภาพของท่านมาทำให้เกิดการช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนคนไทยที่กำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ผมขอให้ท่านทำเอกสาร นำเสนอสิ่งที่ท่านพร้อมจะทำเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือพี่น้องคนไทย โดยผมไม่ขอรับเป็นเงินบริจาค แต่ผมขอให้ท่านลงมือทำโครงการที่จะออกไปช่วยเหลือประชาชนคนไทยทุกกลุ่มทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการบรรเทาความทุกข์ร้อนของประชาชนทางด้านใดก็ตาม หรือด้วยวิธีการใดก็ตามขอให้เป็นการช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม
รวมทั้งสิ่งใดที่ท่านเห็นว่ารัฐบาลจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับโครงการนั้นได้ขอให้ท่านโปรดส่งมาให้ผมรับทราบภายในสัปดาห์หน้า ก็จะเป็นความกรุณาอย่างยิ่งจึงเรียนมาเพื่อพิจารณาและขอขอบพระคุณล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วย ลงชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
มติชนออนไลน์ ตั้งข้อสังเกตว่า ในจดหมาย ไม่มีการเชิญมาพบ เน้นให้บรรดาเจ้าสัวช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยให้ทำเอกสารส่งถึงนายกฯ หากต้องการให้รัฐบาลอำนวยความสะดวก ก็ให้ส่งมาให้ทราบในสัปดาห์หน้า เท่ากับว่า เป็นการขอความร่วมมือ โดยมี “ระยะห่าง” หรือ Distancing ซึ่งอาจช่วยลดข้อวิจารณ์ที่มีต่อรัฐบาลได้
ขณะที่ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้ก่อตั้งสายการบินบางกอก แอร์เวย์ส และผู้ถือหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่ในเครือกรุงเทพดุสิตเวชการ ที่มีฐานะความมั่งคั่งอันดับที่ 11 ที่ได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บส์ ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 84,900 ล้านบาท ให้สัมภาษณ์ว่าเห็นว่า ปัญหาที่ประเทศไทยจะต้องพบเจอ หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 คือปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้ จึงอยากจะช่วยรัฐบาลในเรื่องนี้ โดยเฉพาะที่จังหวัดสุโขทัย เพราะใต้ดินมีน้ำมาก สามารถนำมาใช้เพื่อเกษตรกรรมได้ เดิมทีสุโขทัยและจังหวัดใกล้เคียงใช้น้ำจากแก่งเสือเต้น ที่รวมของแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน เมื่อรัฐบาลไม่ให้ใช้แก่งเสือเต้น น้ำที่หลากมาในยามฤดูฝนก็จะไหลผ่านเมืองลงทะเลไปไม่สามารถเก็บกักมาใช้ทำประโยชน์ในหน้าแล้ง ไปดูตอนนี้ก็ได้ว่า แม่น้ำยมสามารถเดินข้ามไปอีกฝั่งได้ เพราะน้ำแล้งแห้งขอดไปหมด
“อยากจะช่วยออกเงิน ให้รัฐส่งผู้แทนจังหวัดมา มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยจัดหาพื้นที่ที่มีความเหมาะสม และไม่ทำให้เจ้าของที่ดินเดิมเดือดร้อน พร้อมทหารช่าง รวมถึงอาจจ้างทหารที่เกษียณราชการแล้วแต่ยังมีกำลังวังชาอยู่ มาช่วยกันขุดบ่อน้ำเล็กๆ ให้ชาวบ้านมีน้ำไว้ใช้ ถ้าเราช่วยกันคนละไม้คนละมือเราอาจใช้เวลาขุดบ่อน้ำให้ชาวบ้านไว้เลี้ยงปลา และทำนาปรังได้ภายในเวลาเพียง 10 วันเท่านั้น”
“เป็นประโยชน์กว่าการเอาเงินไปให้รัฐบาลหรือโรงพยาบาล ซึ่งผู้มีความสามารถหลายคนก็บริจาคกันไปมากแล้ว แต่การเตรียมการหลังโควิด-19 หยุดแพร่ระบาดยังไม่ได้มีคนคิด ผมจึงคิดว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ที่สำคัญยังสามารถจะขุดลอกแม่น้ำยมให้มีความลึกได้มากกว่านี้ หรือลึกลงไปราว 20 เมตร เพื่อเอาน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ หรืออย่างบึงบอระเพ็ด ซึ่งเคยเป็นทะเลสาบใหญ่ของจังหวัดนครสวรรค์ สามารถจะขุดให้ลึกลงไปได้อีกเพื่อนำน้ำใต้ดินมาใช้ และเก็บกักน้ำไว้ในยามน้ำแล้งได้ เมื่อถึงฤดูฝนก็ไม่ต้องปล่อยให้น้ำฝนไหลผ่านลงทะเลไปโดยเปล่าประโยชน์ บ่อเล็กๆ ที่จะขุดเอาน้ำใต้ดินมาใช้นี้ หากสามารถเชื่อมต่อกันได้ในอนาคตเพื่อให้เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรในพื้นที่ ถ้าปีนี้ไม่ทัน อย่างน้อยปีหน้าจะมีน้ำไว้ให้เกษตรกรและประชาชนใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคได้ อนาคตข้างหน้าน้ำจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ และไม่มีทางที่จะหามาเพิ่มได้ ถ้าไม่ทำที่เก็บกักน้ำไว้ ผมคิดว่าข้อเสนอของผมน่าจะช่วยรัฐบาลและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้มาก