รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 3 เมษายน 2563
“อ.พิชญ์” วอนขอ ศบค. ชี้แจงแต่เรื่องโรคระบาดที่มีประโยชน์ต่อประชาชนก็พอ ไม่ต้องมาบอกว่า วัน ๆ นายกฯ ทำอะไรบ้าง รับแม้จะวิจารณ์นายกฯ แต่ก็เชื่อว่า นายกฯ สนใจประชาชน แต่ไม่มีความสามารถ ควรถอยให้มืออาชีพทำ
ด้าน “อ.วิโรจน์” มองเป็นเพราะไฟลนก้นมากกว่า เชื่อถ้าตั้งประชาชนเป็นฐานคิดตั้งแต่แรก ก็ไม่ต้องมานั่งปวดหัว กลัวโดนถล่มแบบนี้
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ในฐานะผอ.ศบค. สาระสำคัญคือการรายงานความคืบหน้าในการแก้ไขสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 โดยเน้นเรื่องทางการแพทย์ และสาธารณสุขเป็นเรื่องสำคัญ
พร้อมเน้นถึงสุขภาพของคนไทยทุกคน โดยเฉพาะเรื่องของมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม และรณรงค์ให้ทุกคนอยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
สำหรับบุคลาการทางการแพทย์ต้องได้รับการสนับสนุนหน้ากากอนามัย เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างทันกาล และทั่วถึงในโรงพยาบาลทุกพื้นที่ และมีระบบการกระจายที่มีประสิทธิภาพขาดแคลนไม่ได้ “ท่านนายกฯจะติดตามทั้งหมดด้วยตัวเอง เพื่อให้ทีมหมอที่เปรียบเสมือนนักรบที่อยู่แนวหน้าคอยต่อสู้สกัดกั้นข้าศึกที่มองไม่เห็นด้วยความเสียสละ อดทน ในฐานะแม่ทัพ และจะไม่ยอมให้กำลังหลักต้องต่อสู้ภายใต้ความขาดแคลนไม่ได้อย่างเด็ดขาด และต้องมีขวัญกำลังใจที่เข้มแข็งอยู่เสมอ เพื่อเอาชนะวิกฤตครั้งนี้ให้ได้
ท่านพูดว่า สุขภาพนำเสรีภาพ จึงเป็นที่มาของการประกาศว่า จะมีข้อกำหนดห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน หรือ เคอร์ฟิว ตั้งแต่ 22.00 - 04.00 น.ทั่วราชอาณาจักร ยกเว้นผู้ที่มีเหตุจำเป็น หรือผู้ที่ปฏิบัติงานทางด้านการแพทย์ การธนาคาร การขนส่งสินค้าที่จำเป็นเพื่อนอุปโภคบริโภค ยาเวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ เชื้อเพลิง รวมถึงการเดินทางของประชาชนเพื่อเข้าออกเวรทำงาน หรือท่าอากาศยาน ทั้งนี้ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ในเขตนั้นๆ โดยจะเริ่มในวันศุกร์ที่ 3 เมษายน เป็นต้นไป จึงขอให้พี่นองประชาชนอย่างตื่นตระหนก และไม่ต้องกักตุนสินค้า เพราะยังสามารถออกมาซื้อได้ในช่วงเวลากลาวันได้ตามปกติ และเคร่งครัดในเรื่องระยะห่างทางสังคม ทั้งหมดจึงเป็นที่มาในวันนี้ของการประกาศเคอร์ฟิวคืนแรก”