การช็อปปิงในโลกยุคดิจิทัล ไม่ใช่แค่ช็อปออนไลน์อีกต่อไป แต่ล่าสุด อาลีบาบา ผู้นำด้านอีคอมเมิร์สรายใหญของโลก เปิดซูเปอร์มาร์เก็ตให้ผู้ซื้อได้ผสมผสานการช็อปปิงแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่รวมข้อดีของการช็อปออนไลน์กับการได้เลือกของด้วยตาตัวเองไว้ด้วยกัน
เหอหม่า คือชื่อของซูเปอร์มาร์เก็ตใหม่ของอาลีบาบา ที่เปิดให้บริการแล้วใน 2 เมืองใหญ่ของจีน ทั้งกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้ รวมถึงหนิงโป เมืองท่าที่กำลังเติบโต ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่อาลีบาบากำลังผลักดัน คือ "New Retail" หรือ "การค้าปลีกแบบใหม่" ซึ่งหมายถึงการผสมกลมกลืนระหว่างการช็อปปิงออนไลน์และออฟไลน์
ในซูเปอร์มาร์เก็ตเหอหม่าแห่งนี้ มองเผินๆก็ดูเหมือนซูเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียมทั่วไป เต็มไปด้วยอาหารจากหลากหลายทั่วทุกมุมโลก และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ รวมถึงมีร้านอาหารที่สามารถนั่งรับประทานหรือซื้อกลับบ้านได้ แต่สิ่งที่ทำให้เหอหม่าแตกต่าง และถูกขนานนามว่าเป็นต้นแบบของกาค้าปลีกแบบใหม่ ก็คือสินค้าทุกชนิดมีบาร์โค้ด ที่ทำให้ผู้ซื้อสามารถดูรายละเอียดราคา ที่มา คุณค่าทางโภชนาการ หรือข้อมูลอื่นๆของสินค้าชิ้นนั้นได้อย่างละเอียด
นอกจากนี้ ผู้ที่จะช็อปปิ้งในเหอหม่ายังไม่ต้องใช้เงินสดหรือบัตรเครดิต แต่สามารถลงทะเบียนกับเว็บไซต์อาลีเพย์หรือเถาเป่า แล้วใช้จ่ายผ่านอาลีเพย์ได้ และสามารถเลือกซื้อสินค้าด้วยตัวเอง หรือสั่งจากแอพพลิเคชันเหอหม่าแล้วใช้บริการเดลิเวอรีก็ได้เช่นเดียวกัน โดยสินค้าทุกออเดอร์จะถูกจัดส่งโดยรถมอเตอร์ไซค์ ในระยะเวลาไม่เกิน 30 นาที
นอกจากนี้ อาลีบาบายังใช้ระบบ Big Data Analytic ในการประมวลผลประวัติของผู้ซื้อ และแนะนำสินค้าที่ตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุดผ่านแอพฯ เพื่อให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาเลือกซื้อของนานเกินไปอีกด้วย
เหอหม่าเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2015 โดยเป็นความพยายามของอาลีบาบาที่จะปฏิวัติการค้าปลีกแบบเก่า และเจาะกลุ่มลูกค้าเดิมในจีน ที่อาจยังไม่ชิน หรือไม่ไว้ใจการช็อปปิงออนไลน์ ที่ไม่ได้เห็นสินค้าหรือเลือกซื้อกับมือตัวเอง ซึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เหอหม่าประสบความสำเร็จอย่างสูง แม้จะมีข้อจำกัดคือการสามารถให้บริการลูกค้าเฉพาะในรัศมี 3 กิโลเมตรรอบซูเปอร์มาร์เก็ต เนื่องจากสินค้าเป็นของสด จึงไม่สามารถขนส่งไปยังระยะทางไกลได้
ปัจจุบัน การช็อปปิงออนไลน์คิดเป็นเพียงร้อยละ 15 ของการค้าปลีกทั้งหมดในจีน และอาลีบาบาครองส่วนแบ่งการตลาดถึงร้อยละ 11 ของการค้าปลีกในจีน หรือเกือบทั้งหมดของการค้าออนไลน์ เป้าหมายต่อไปของอาลีบาบาจึงไม่ใช่การครอบครองส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจอีคอมเมิร์ส แต่เป็นการขยายตลาดค้าปลีกออนไลน์ให้กว้างขวางครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
เทรนด์การค้าปลีกแบบใหม่ โดยผสมผสานการช็อปปิงออนไลน์เข้ากับการจ่ายตลาดแบบดั้งเดิม ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในจีน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แอมะซอน อีคอมเมิร์สยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ก็ประกาศซื้อกิจการ Wholefood บริษัทค้าปลีกพรีเมียมชื่อดังของสหรัฐฯ ด้วยเงินถึง 13,700 ล้านดอลลาร์ หรือ 450,000 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจค้าปลีกและของชำ จากเดิมที่ก่อนหน้านี้แอมะซอนเปิดให้บริการ Amazon Go ซูเปอร์มาร์เก็ตผสานการช็อปออนไลน์แบบเดียวกับเหอหม่า แต่ล้ำหน้ากว่าโดยไม่ต้องมีแคชเชียร์ ใช้ระบบเช็คเอาท์อัตโนมัติ คิดเงินผ่านทางเว็บแอมะซอน และยังมี Amazon Fresh บริการสั่งของสด-ของชำผ่านทางออนไลน์อีกด้วย