วันที่ 9 มิ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ยื่นคำร้องขอให้ กกต. ตรวจสอบการชะลอนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทของพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า ส่วนตัวมีหลายคดีที่อยู่ระหว่างฟ้องร้อง ส่วนใหญ่เป็นคดีหมิ่นประมาท ซึ่งตนเองมองว่าหลายคนในพรรคเพื่อไทย มีคดีมากกว่าตนเองด้วยซ้ำ ทั้งนี้ทุกเรื่องที่ตนเองร้องเป็นล้วนเป็นเรื่องที่พรรคการเมืองหรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดในสังคมกระทำการผิดกฎหมาย
สนธิญา กล่าวว่า วันนี้จึงอยากให้ กกต.พิจารณาสอบถามไปยังพรรคเพื่อไทยว่าจะชะลอนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทถึงปีพ.ศ. ใด หากพรรคเพื่อไทยบอกว่านโยบายนี้ทับซ้อนกับพรรคก้าวไกล ก็ขอถามไปยังพรรคก้าวไกลว่าจะทำนโยบายแจกเงิน 3,000 บาทให้กับผู้สูงอายุหรือไม่ และหากพรรคก้าวไกล ไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยจะหยิบยกนโยบายนี้มาทำเป็นนโยบายแรกหรือไม่
สนธิญา ระบุว่า ตนข้องใจที่ขณะนี้ กกต. ยังไม่ได้พิจารณารับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. เหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงรีบประกาศว่านโยบายนี้ต้องชะลอออกไป ทั้งที่ยังไม่ได้บทสรุปว่าพรรคใดจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่วนที่พรรคเพื่อไทยประกาศจะฟ้องร้องตนเองนั้น พรรคเพื่อไทยประกาศว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย หากฟ้อง ตนเองก็คงต้องเดินเข้าคุก แต่ไม่เป็นไรเพราะสิ่งที่ทำ เป็นการถามเพื่อประชาชนคนไทย
อย่างไรก็ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง ม. 101 วรรค 2 หากพรรคการเมืองกล่าวหาประชาชนจะมีโทษเป็นสองเท่า ยุบพรรค ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าพรรคการเมืองนั้นๆ จึงขอให้สังวรไว้เพราะส่วนตัวไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อพรรคเพื่อไทย หรือพรรคการเมืองพรรคการเมืองใด ที่ผ่านมากระทำด้วยความสุจริตเป็นที่ตั้ง