เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2565 ดร.ทักษิณ ชินวัตร (Tony Woodsome) อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ TalkingThailand ทางสถานีโทรทัศน์ 'วอยซ์ทีวี' ถึงคุณสมบัตินายกฯ คนใหม่ ว่า ต้องเข้าใจความทุกข์ยากประชาชนแล้วอยากจะแก้ปัญหาให้ประชาชน ถ้าไม่อยากแก้ปัญหาก็จบตั้งแต่วันแรก เมื่อเข้าใจต้องวางยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหา และต้องว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก เราไม่ใช่อยู่โดยไม่สนใจต่างประเทศก็ได้ เพราะว่าการแข่งขัน ถ้าไม่แข่งเขาก็จับเราแข่งขันด้านเศรษฐกิจ ดังนั้น ต้องทันโลกว่าวันนี้โลกหากินกันยังไง แล้วจะดูดเงินจากเรา โดยไม่ดูดเงินจากเขาก็จะพัง
ดร.ทักษิณ กล่าวว่า นายกฯคนใหม่ต้องทำให้คนไทยมีโอกาสมีศักยภาพ วันนี้เรื่องรู้เท่าทันต่างประเทศ ทั้งเศรษฐกิจ การเมืองมีความสำคัญ
ถามว่าจะต่อสู้กับระบบที่ราชการเป็นใหญ่ได้อย่างไรที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำมาตลอด 8 ปี ดร.ทักษิณ กล่าวว่า เรื่องระบบราชการอยู่ที่ทัศนคติคนเป็นนายกฯ ถ้านายกฯ เด็ดขาดต้องการเป้าหมายชัดเจน ข้าราชการตอบสนอง เพียงแต่ต้องช่วยปรับระบบและระเบียบกติกา ตอบแทนใหม่ เพราะเขาชินกับได้เงินพิเศษ ต้องแก้ไขสวัสดิการและโบนัสอย่างไร ถ้าข้าราชการทำงานได้ดี สมัยตนก็มีโบนัส เพราะตนต้องการให้บริการดีแล้วได้เงินอย่างถูกต้อง
ถามว่า จะเปลี่ยนความคิดของข้าราชการอย่างไร ดร.ทักษิณกล่าวว่า ต้องดูว่าจริงจังหรือไม่ เหมือนรัฐบาลที่บอกมาจะมาทำแล้วไม่ทำ ถ้าเราจะทำจริงจัง ถ้าเจอพรรคการเมืองจริงจังนโยบายก็ทำได้หมด ตอนพรรคไทยรักไทย มีเวลา 6 เดือนกับการทำ 30 บาทรักษาทุกโรคและกองทุนหมู่บ้านได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนบอกทำไม่ได้ แต่เราก็ทำทัน
ส่วนเรื่องเลือกตั้งนั้น ดร.ทักษิณ ระบุว่า การเลือกตั้งจะต้องเป็นไปตามกติกา ตนเชื่อว่านายกฯจะอยู่ครบเทอม ส่วนกติกาที่คล้ายปี 2540ที่ไม่ได้เป็นการเมืองสองพรรคใหญ่นั้น ก็คิดว่าจะมีพรรคแนวคิดเก่ากับพรรคแนวคิดใหม่ พรรคแนวคิดเก่าชอบหาเผด็จการ พรรคแนวคิดใหม่คือเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ก็จะแข่งกัน พรรคแนวคิดเก่าจะใช้เงินอย่างเดียว ส่วนพรรคแนวคิดใหม่จะให้ประชาชนได้เข้าใจอนาคตของตัวเอง แต่แน่นอนพรรคแนวคิดเก่าเงินเยอะมาก เพราะไม่มีช่วงไหนของการเป็นรัฐบาลที่จะหาเงินได้เท่าช่วงนี้ เมื่อได้เงินก็ใช้ง่ายแจกง่าย ก็จะสู้กับการเมืองที่ใช้เงินกับ อนาคตของประชาชน
"ผมเชื่อว่าชาวบ้านจะเลือกคล้ายๆเลือกตั้ง ส.ก. มีคนมีเงินเข้าไปซื้อหลายพรรค ชาวบ้านรับหมด แต่จะตัดสินใจในแนวที่เป็นประโยชน์กับเขา ถ้าคราวหน้าเงินเยอะ หลายพรรคก็จะแย่งกันซื้อ ชาวบ้านจะขอบคุณทุกคน ที่มาแจกเงิน ก็รับ แล้วครั้งหน้าจะสั่งสอนการเมืองที่ใช้เงิน" ดร.ทักษิณกล่าว
ดร.ทักษิณ กล่าวว่า ส.ว.แม้จะยังอยู่ แต่ถ้ามีฝ่ายที่ประชาชนเห็นว่าถ้าเลือกพรรคการเมืองใดถล่มทลาย ตนคิดว่า ส.ว.ก็ไม่กล้าขัด และตอนนี้ ส.ว.เป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ) กับฝ่ายตู่ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม) ทั้งสองฝ่ายก็ชิงนายกฯ ทั้งคู่ แต่ก็คงไม่ได้ทั้งคู่
ถามถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ จะกังวลพรรคเหล่านี้หรือไม่ ดร.ทักษิณ กล่าวว่า คงให้ใช้หลายหมื่นล้านบาทคงเอาไม่อยู่ เพราะประชาชนเข็ดมากกับสภาพแบบนี้มองไม่เห็นอนาคตตัวเอง บางครอบครัวกู้มา ความเข็ดประชาชนเที่ยวนี้เชื่อว่า บ้านเมืองจะเปลี่ยนขั้วแน่นอน
ถามว่า รัฐบาลใหม่นอกจากแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แก้ไขรัฐธรรมนูญควรทำหรือไม่ ดร.ทักษิณ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาแน่นอน แต่เป็นศิลปะและเทคนิคสำคัญ ส่วนจะตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)หรือไม่นั้น ในเมื่อทุกคนตระหนักว่า ตรงนี้คือปัญหาของประเทศ ต้องแก้ไข ถ้าอยากเห็นประเทศเจริญก้าวหน้า ประชาชนมีอนาคต ก็ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องอธิบายให้ประชาชนฟังว่าต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาถูกบิดเบือน ถ้าฝ่ายประชาชนเข้ามาได้ก็จะเห็นประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ วันนี้โลกไม่เหมือนก่อน การรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนได้ดีมาก เพราะสมาร์ทโฟนมีไปถึงระดับหมู่บ้าน ดังนั้น ประมาทไม่ได้
ส่วนคนรุ่นใหม่นั้น ดร.ทักษิณ กล่าวว่า คนรุ่นใหม่ อยากเห็นอนาคตตนเอง คน GenZ อายุ 25 ปี อายุ 30 ปีลงมา คนเหล่านี้เป็นวัยทำงาน เขาดูคือเรื่องสุขภาพ เพราะเกิดมาช่วงโควิด-19 และเสถียรภาพทางการเงินของครอบครัว และมองรัฐบาลตอนนี้ไม่สามารถให้อนาคตเขาได้ ตนเชื่อว่าคนรุ่นใหม่จะเลือกพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยแน่นอน
ถามถึง แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย สนใจงานการเมือง ดร.ทักษิณ กล่าวว่า แพทองธารตามตนมาตั้งแต่ 8 ขวบ แพทองธารลูกคนเล็กจะใกล้ชิดตน ได้คุยเรื่องการเมืองตั้งแต่เด็ก เหมือนกับถ่ายทอดการเมืองประสบการณ์ให้แพทองธารฟัง ไปประชุมสุดยอดผูนำเอเปค ที่ประเทศชิลี แพทองธารก็ไปกับตนและได้ทักทายกับผู้นำประเทศต่างๆ ทำให้มีความเข้าใจและชอบ ในเมื่อครอบครัวถามว่าใครจะเป็นตัวแทนครอบครัวไปช่วยพรรคเพื่อไทยหรือไม่ แพทองธารบอกว่าไม่อยากเป็นนักการเมืองเต็มตัวแต่อยากจะช่วยพรรคเพื่อไทยก็เลยอาสาเป็นตัวแทนครอบครัวเข้าไปทำเรื่องครอบครัวเพื่อไทย
"วันนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า อิ๊งค์เป็นแคนดิเดตนายกฯ ไหมจะลงเป็นการเมืองเต็มตัวไหม แต่เขาเต็มตัวในการช่วยพรรคเพื่อไทยเต็มตัว" ดร.ทักษิณ กล่าว
ดร.ทักษิณ กล่าวว่า วันนี้เป็นปีใหม่ที่ทุกคนดูเหมือนมีความหวังเพราะเป็นปีที่จะมีการเลือกตั้ง ทุกคนก็อดทนรอคอยมา 8ปี นึกว่าจะมีอะไรดีขึ้นก็ไม่ดีขึ้น ตนเชื่อว่าคนไทยจะสมหวัง ได้รัฐบาลที่รักประชาชน ที่เข้าใจปัญหาประชาชนมาแก้ปัญหาประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่จะได้เห็นอนาคตของตัวเองที่อายุุจะมากขึ้นทุกวัน ถ้ามองไม่เห็นความหวังก็จะแย่ ปีใหม่ปี 2566 เป็นปีที่คนไทยจะได้เลือกอนาคตตัวเองอย่างเต็มที่ เมื่อคนไทยเลือกถูกต้องก็จะได้เห็นอนาคตที่ถูกต้อง ถ้าได้รัฐบาลที่รักประชาชนทำงานเป็น จะทำให้ประชาชนดีกว่า
"ขอให้หนี้เบาบางลง หายไป ขอให้อนาคตเห็นได้ชัด มีรายได้มากขึ้น แน่นอนรายได้ครั้งหน้าจะมา 2ระนาบทั้งอนาล็อกและดิจิทัล ดูเหมือนยากก็ง่าย เพราะคนไทยอยู่บ้านนอกเล่นไลน์ เฟซบุ๊กเป็น ดังนั้นเป็นเรื่องที่ถึงเวลาคนไทยต้องหากิน2ระนาบ ขอให้คนไทยสมหวัง ขอบคุณวอยซ์ที่ให้ผมอวยพรประชาชน"
ผู้ดำเนินรายการขอให้อวยพรปีใหม่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดย ดร.ทักษิณ กล่าวว่า "ผมว่างานเลี้ยงต้องมีเลิกรา ก็ผมคิดว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำงานไม่ค่อยประสบความสำเร็จก็มีความตั้งใจ แต่เมื่อทำงานมา 8 ปีแล้วก็ควรปล่อยให้คนรุ่นใหม่ๆ ได้มาแก้ปัญหาให้บ้านเมือง แล้วว่างๆ ก็ไปเที่ยวกับผมบ้างก็ได้นะ ว่างงานอยู่ เที่ยวแล้วบอกว่าโลกจะมีเทคโนโลยีอย่างนี้"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง