ปิดตำนานนักเขียนการ์ตูนภาพสยองขวัญ ‘ทวี วิษณุกร’ ผู้วาดการ์ตุนกระสือสาว จนเป็นต้นแบบ ผีกระสือ ที่มีหัวกับไส้ จนมาถึงปัจจุบัน โดยเฟซบุ๊ก ทวี วิษณุกร แฟนคลับ ได้แจ้งข่าว การเสียชีวิตของ ทวี วิษณุกร ว่าเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (30 ก.ค.) ด้วยวัย 78 ปี หลังล้มป่วยด้วยเส้นเลือดในสมองตีบ และเป็นอัมพาต ตั้งแต่ปลายปี 2560
‘ทวี วิษณุกร’ เป็นนามปากกาของ ทวี เย็นฉ่ำ เกิดเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2484 ที่ ตำบลบางขันหมาก อำเภอเมืองฯ จังหวัดลพบุรี มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ในฐานะนักเขียนการ์ตูนนิยายภาพสยองขวัญ
ผลงานในยุคแรก ทวีเขียนเป็นเรื่องผีบ้าง นิทานพื้นบ้านบ้าง ที่พอจะสืบค้นได้คือ “แม่นาคพระโขนง” “แก้วหน้าม้า” “โกมินทร์กุมาร” “จอมไพรจอมสิงขร” “ราชาร้อยเล่ห์” “สองอัศวินดาบดำ” “เห้งเจียผู้วิเศษ”...ฯลฯ
จนเมื่อย้ายบ้านไปอยู่ที่กรุงเก่า ทวีจึงได้เริ่มเขียนนิยายภาพ “กระสือสาว” ขึ้นในปีพ.ศ. 2511 ตีพิมพ์ในการ์ตูนหนูจ๋า ผลิตโดยสำนักพิมพ์พิมพ์บรรลือสาส์น เชิงสะพานผ่านฟ้า เป็นเรื่องยาวใช้เวลา 5 ปีเต็มจึงจบลงในปี 2516 จากนั้นได้มีการรวมเล่ม จำนวน 9 เล่มจบ ก่อนจะถูกเลือกไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง “กระสือสาว” โดยบริษัทศรีสยามโปรดักชั่น นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี และพิสมัย วิไลศักดิ์ ซึ่งทวีได้รับเชิญให้แสดงเป็นตัวประกอบในเรื่องด้วย
แม้เรื่องกระสือสาวจบลง ทวียังคงเขียนนิยายภาพแนวผี ๆ ต่อ โดยตีพิมพ์ในการ์ตูนสยองขวัญคือเรื่อง “นางตานี” ในขณะที่การ์ตูนรวมรสสำราญซึ่งทำร่วมกับ “ปิยะดา” (นาวาอากาศเอกประเวส สุขสมจิตร) นักเขียนการ์ตูนร่วมสำนักพิมพ์ จะเป็นเรื่อง “ลูกสาวผี” หนังสือหนูจ๋า จะเป็นเรื่อง “ผีหัวขาด” หนังสือการ์ตูนช็อค จะเป็นเรื่อง “โรงแรมผี” และหนังสือการ์ตูนรวมเด็ก จะเป็นเรื่อง “วิญญาณพันปี
ช่วงท้าย ๆ ของการเขียนนิยายภาพ ได้รับผลกระทบจากการเติบโตของหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นนิยายภาพแนวผี ๆ ความนิยมลดลง ทวีจึงหันมาเขียนนิยายภาพแนวบู๊อิงประวัติศาสตร์ “เลือดทาส” และนิยายแนวบู๊ดรามา “ชีวิตเดือด” ซึ่งน่าจะถือเป็นเรื่องสุดท้าย นิยายภาพเรื่อง “ชีวิตเดือด” ได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์ที่ได้ส่งเสริมให้น้องชาย คือ นายอุทัย (แช) เย็นฉ่ำ ไปเป็นนักมวยไทย โดยนำไปฝากไว้ที่ค่ายมวย “ยนตรกิจ” โดยใช้ชื่อว่า โทน ยนตรกิจ ขึ้นชกทั้งที่เวทีราชดำเนินและลุมพินี ก่อนที่ต่อมาจะย้ายไปอยู่ค่าย “พรแสงฟ้า” ในที่สุด น้องชายคนนี้ต่อยได้รางวัลถ้วยดุเดือดมาหลายใบ สมใจทวี ผู้พี่ชาย เพราะทวีเป็นคนที่ชอบทางหมัดมวยมาก แต่ไม่เคยได้ฝึก จึงหันมาสนับสนุนน้องชายแทน
ต่อมาปี พ.ศ. 2523 ทวีก็ประสบปัญหาในครอบครัว ต้องหย่าร้างกับภรรยาและรับภาระเลี้ยงดูบุตรชายหญิงทั้งสามคน จึงอพยพขึ้นไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่จังหวัดกำแพงเพชรซึ่งมีญาติพี่น้องอยู่ ด้วยความห่างไกลจากสำนักพิมพ์ จึงต้องวางพู่กันการเขียนนิยายภาพไปโดยปริยาย
ทว่าชะตาชีวิตของทวี หนีไม่พ้นโรงพิมพ์และกลิ่นน้ำหมึก พอดีกับเวลานั้นคุณสรรชัย และคุณกมล (กิตติ) เอกมโนชัย หลานชายเจ้าของสำนักพิมพ์บรรลือสาส์น ได้ชักชวนทวีให้ทำงานเป็นบรรณาธิการนิตยสาร “ศักดิ์สิทธิ์” ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2527 ในช่วงเวลานี้ แม้ทวีไม่ได้เขียนนิยายภาพแล้ว แต่ก็ได้แต่งนิยายผี ๆ ตามแนวที่ถนัด ตีพิมพ์ลงในนิตยสารดังกล่าวด้วยหลายเรื่อง
ชีวิตมาหักเหอีกครั้ง เมื่อทวีออกมาเปิดหนังสือเอง ชื่อว่า “มหาสิทธิโชค” ในปี 2530และหนังสือการ์ตูน “โลกหัวเราะ” ทว่าอยู่ได้เพียง 2 ปี ด้วยสายป่านสั้นจึงประสบภาวะขาดทุน จำเป็นต้องยุติกิจการหนังสือไป พร้อมมีหนี้สินอีกเป็นตัวเลขถึงเจ็ดหลัก จนต้องหันไปเป็นนักเขียนคอลัมน์ตามนิตยสารต่าง ๆ เช่น นิตยสารศักดิ์สิทธิ์ นิตยสารดวงมหาโชค นิตยสารชีวิตจริง...ฯลฯ ด้วยเรื่องแนวถนัดที่มักมีผู้มาจ้างเขียน คือเรื่องเกี่ยวกับพระสงฆ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อภินิหาร และศาสตร์ด้านหมอดูลายมือ ซึ่งทวีได้ศึกษามาด้วยตนเองฝึกดูให้กับเพื่อน ๆ มาตลอด ตั้งแต่เรียนเพาะช่าง
พ.ศ.2559 ทวีได้เกษียณตัวเอง กลับมาใช้ชีวิตในบั้นปลายที่จังหวัดกำแพงเพชร ท่ามกลางธรรมชาติอย่างสุขสงบ ก่อนล้มป่วยเป็นอัมพาตซีกขวาด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบเมื่อปลายปี 2560 และย้ายกลับมาพำนักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน จังหวัดปทุมธานี เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา
สำหรับพิธีสวดอภิธรรม ทวี เย็นฉ่ำ (ทวี วิษณุกร) ครอบครัวได้จัดพิธี ถึงวันที่ 3 สิงหาคม 2562 ที่ ศาลา 3 วัดทัศนาสุนทริการาม (วัดตะพาน) ดินแดง และมีพิธีฌาปนกิจ ในวันที่ 4 สิงหาคม