ก่อนการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ประชาชนกลุ่มคณะราษฎรยกเลิก 112 (ครย. 112) เดินทางเข้ายื่นหนังสือกับแกนนำพรรคก้าวไกล เนื่องจากแถลงการณ์ของพรรคร่วมฝ่ายค้านในกรณีเรียกร้องสิทธิประกันตัวของ ตะวัน-แบม ของพรรคฝ่ายค้าน ไม่ปรากฏข้อเรียกร้องเรื่องแก้ไขหรือยกเลิก ม.112 ซึ่งเป็นจุดยืนของพรรคก้าวไกล
พร้อมทั้งยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ
1.ปล่อยนักโทษการเมืองทุกคน โดยให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ผลักดันต่อศาลอาญา ให้มีการ
ปล่อยตัวนักโทษการเมืองไม่มีเงื่อนไข เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560
2.ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เปลี่ยนแปลงการแต่งตั้งและการปฏิญาณตนกับกษัตริย์ โดยเป็นการให้
หัวหน้าศาลทุกภาคส่วนมาจากการเลือกตั้งของประชาชน หรือได้รับการรับรองจากสภาผู้แทนราษฎรและปฏิญาณตน การปฏิบัติหน้าที่ผู้พิพากษาต่อสภาผู้แทนราษฎร แก้ไขรัฐธรรมนูญให้ผู้พิพากษามีอิสระ ห้ามไม่ให้ผู้บริหารทำการแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษาเจ้าของสํานวนคดี เพื่อประกันให้เกิดความยุติธรรมและการปกป้องสิทธิเสรีภาพราษฎร
3.พรรคการเมืองมีนโยบายประกันสิทธิเสรีภาพของราษฎรด้วยการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 และ 116 และกฎหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพการรวมกลุ่ม การแสดงความคิดเห็น และการชุมนุมหรือการแสดงออกทางการเมือง ให้เป็นวาระแห่งชาติ
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นตัวแทนรับหนังสือ พร้อมระบุว่า ตอนนี้เป็นห่วงสถานการณ์ของตะวัน-แบม ที่สุด ซึ่งอยู่ห่างจากเราไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น เวลาของพวกเรามีเหลืออยู่ไม่มาก ตนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ครั้งหนึ่ง มีโอกาสได้พูดคุยว่าข้อเรียกร้องที่แท้จริงคืออะไร พบว่าก็ไม่ต่างจากข้อเรียกร้องขอคณะราษฎรทั้ง 3 ข้อนี้ แต่ว่าข้อที่ 0 คือ การคืนสิทธิประกันตัวปล่อยนักโทษทางการเมืองทุกคน
"ในฐานะนายประกันของตะวัน ในฐานะพ่อของลูกสาวที่อีก 10 ปี จะเป็นเหมือนตะวัน ก็จะพยายามอย่างเต็มที่ทุกวิถีทาง ทั้งในระบบรัฐสภา และการพูดคุยเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลง ดึงฟืนออกจากกองไฟ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะไม่ให้น้องสาวคนนี้ต้องเสียชีวิตไป" พิธา กล่าว
จากนั้น แอนนา ทะลุวัง หนึ่งในตัวแทนกลุ่ม ครย. ได้ตั้งคำถามต่อ พิธา ว่า จุดยืนของพรรคก้าวไกลคือยกเลิกหรือแก้ไขมาตรา 112
"การแก้ไขมาตรา 112 และยกเลิก 112 ไม่ใช่สิ่งที่ตรงกันข้ามกัน สิ่งที่ต้องการจะแก้ไขคือเรื่องโทษที่ไม่ได้สัดส่วน มากเกินไป และการเป็นเครื่องมือทางการเมืองให้ผู้สวมเสื้อจงรับภักดีมารังแกผู้เห็นต่างทางการเมือง รวมถึงขอบเขตในการใช้กฎหมาย 112" พิธา ตอบ
พิธา ย้ำว่า จุดยืนของพรรคก้าวไกลเหมือนเดิมมาตั้งแต่เดือน ก.พ. 2564 มองว่า มาตรา 112 มีปัญหาขั้นต่ำที่สุดคือแก้ไขเพื่อให้มีโอกาสให้สังคมพูดคุยกัน ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย พยายามผลักดันหลายครั้งในรัฐสภา หากมีโอกาสงก็จะผลักดันเข้าไปอีกครั้งอย่างเร็วที่สุด ขณะเดียวกันบางฝ่ายที่อยากจะแก้ไขให้มีการใช้มาตรา 112 อย่างเข้มข้นมากขึ้น ก็พร้อมที่จะพูดคุยเรื่องนี้ในสภาเพื่อหาทางออก
"ถ้าพรรคการเมืองหรือสภาจะไม่ให้โอกาสในการสร้างฉันทามติถ้าของสังคมไทย กลัวว่าประเทศไทยจะหลุดมือ และไม่สามารถนำกลับมาได้ การที่พรรคจะผลักดันจนถึงขั้นยกเลิกอาจจะเป็นไปได้" พิธา ระบุ
ด้าน รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า จุดยืนของพรรคกล้าวไกล มีความชัดเจนในการแก้ไข มาตรา 112 และเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพต่างๆ พรรคก้าวไกลมีความชัดเจนว่า จุดยืนของเราไม่ได้เปลี่ยน เรารู้ว่าเรามี ส.ส.เท่าไหร่ หากต้องการเปลี่ยนแปลงจริงๆ ต้องใช้พันธมิตรมากกว่านี้ สิ่งที่เราพยายามทำก็คือการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 เป็นมาตราฐานขั้นต่ำที่เราสามารถคุยกันได้ และเราก็หวังว่ามาตราขั้นต่ำตรงนี้ จะนำไปสู่การสร้างความร่วมมือ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในระยะยาวต่อไป
รังสิมันต์ ย้ำว่า จุดยืนของเรายังคงเหมือนเดิม ส่วนในรายละเอียดถ้าจะถามให้ลึกไปกว่านี้ ก็คงจะยังไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้