ไม่พบผลการค้นหา
‘โทนี่’ เผยผ่านคลับเฮาส์ระบุ ส.ว.ฝืนมติประชาชนพูดแบบปากไม่เชื่อมกับสมอง หนุนพรรคประชาธิปไตยตั้งรัฐบาลไม่ง้อ ส.ว. ติง กกต. อย่าเล่นแง่ทุจริตเพราะคนตื่นตัว เย้ย ‘ประวิตร’ พยายามเป็นนายกฯ มาก เดือดคนเป็นควายพูดซื้อบ้านเอสซีฯ ได้สัญชาติไทย ลั่น 'เพื่อไทย' มีโอกาสแตะ 320 เสียง จับมือกับฝ่ายประชาธิปไตยได้ ยันหาง่ายขออีกแค่ 75 เสียงโหวตนายกฯ รับ 'แพทองธาร' อาจเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ย้ำลูกสาวคนเล็กคือกล่องดวงใจ

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 21 ก.พ. 2566 ดร.ทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม (Tony Woodsome) อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุผ่านรายการ CareTalk x Care ClubHouse ในซีรีย์พิเศษ “เลือก•เคลื่อนไทย 2566 EP2 : พี่โทนี่ตัวตึงตอบทุกปัญหา…แลนด์สไลด์ แน่ๆ จะแคร์เพื่อ”

โดยช่วงแรก โทนี่ กล่าวถึงชีวิตเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ช่วงที่ผ่านมาพักอาศัยอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์จึงได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศจีนด้วย และได้คุยกับคนในภูมิภาคอาเซียนพบว่า ส่วนใหญ่แล้วคนในภูมิภาคอาเซียนค่อนข้างเป็นกังวลกับเรื่องการเมืองในประเทศเมียนมาร์ ไม่รู้ว่าประเทศเมียนมาร์จะเอาอย่างไรซึ่งประเทศไทยก็มีส่วนที่จะสามารถช่วยชี้นำหรือชักนำเขาได้ แต่จะไม่เป็นการยุ่งกับกิจการภายในประเทศแต่เราต้องทำให้เขาคืนอำนาจให้กับประชาชน 

ขณะที่ในแง่ของเศรษฐกิจนั้นพบว่า ประเทศมาเลเซียเป็นประเทศที่เติบโตทางเศรษฐกิจมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียนรองลงมาคือประเทศเวียดนาม ซึ่งโทนี่กล่าวว่า ตนได้สอบถามกับเพื่อนในประเทศมาเลเซียพบว่า แม้รัฐบาลในประเทศมาเลเซียจะเปลี่ยนแปลงบ่อยแต่ระบบนั้นมีความลงตัวทำให้ภาคเอกชนเข้มแข็ง รวมถึงระบบราชการที่วางไว้ก็ไม่มีปัญหาอะไรทำให้ภาคเอกชนซึ่งมีเศรษฐีทั้งหลายสามารถเข้ามามีส่วนร่วมทำให้ตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงขึ้น

โทนี่ กล่าวอีกว่า ส่วนประเทศเวียดนามนั้น ‘โฮจิมินห์ ซิตี้’ เจริญแบบผิดหูผิดตา แม้เวียดนามจะเป็นประเทศเผด็จการแต่เผด็จการของเขาก็เป็นเผด็จการที่ทำให้ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย นักการเมืองที่คอรัปชั่นก็ถูกให้ออกจากราชการ แต่ของเรา 8 ปีที่ผ่านมา เป็นเผด็จการที่ปล่อยให้คอรัปชั่นเต็มเมืองและยังปล่อยให้ยาเสพติดธุรกิจสีเทามากมาย จึงถึงเวลาแล้วที่ควรเอาธุรกิจใต้ดินขึ้นมาเสียภาษีให้ถูกต้องจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องคอรัปชั่น

“เป็นห่วงประเทศไทยมาก เพราะประเทศไทยโตเพียงแค่ 2.6% ซึ่งถือว่าบริหารเศรษฐกิจได้แย่ และน่าเสียดาย ทั้งที่ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่เล็ก เราสามารถทำเศรษฐกิจให้โตมากกว่านี้ได้ คอยดูว่าไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เงินจะเดินสะพัด เศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้นมาหน่อยเพราะว่า การเลือกตั้งมีการแจกเงินกันแหลก โดยเฉพาะพรรครัฐบาลเงินเยอะมาก ถ้าพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล และดูตามนโยบายที่แถลงผมคิดว่า เศรษฐกิจของเรา GDP จะโต 5% อย่างน้อยหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ” โทนี่ ระบุ 

B8571119-E5A1-40E3-A5E3-53FB4C6ED836.jpeg



อัด ‘ส.ว.ประพันธ์’ โชว์ทัศนะ ส.ว.ควรเลือกนายกฯ ชี้ พูดโดยที่ปากกับสมองไม่เชื่อมกัน 

ในรายการดังกล่าวได้มีการเปิดวิดีโอการอภิปรายของ ประพันธ์ คูณมี สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในญัตติการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.159 โดยพาดพิงถึง อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ส.ส.บางคนอยู่มาหลายสิบปี ได้เป็นรัฐมนตรีมาหลายสมัยแต่ไม่มีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะอยู่ใต้อาณัติของคนที่อยากให้ลูกสาวได้เป็นนายกรัฐมนตรี 

โดย โทนี่ กล่าวว่า ประพันธ์ คูณมี เป็นทนายที่เคยสมัคร ส.ส. แล้วสอบตก จึงไม่แปลกที่จะไม่ชอบตนเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นวันนี้ที่เขาได้พูดออกมา คนทั้งโลกเค้ารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น จึงเข้าใจว่าท่านนี้อาจจะพูดโดยที่ปากกับสมองไม่เชื่อมกันจึงพูดไปเรื่อยเปื่อย แต่ในความคิดตนมองว่าถ้าจะแก้กฎหมายนี้ก็ควรใช้หุ่นยนต์แทนมนุษย์ เพราะอย่างไรเสียมนุษย์เหล่านี้ก็ทำตามคำสั่งอยู่แล้ว และตอนนี้ประชาชนเขาเข็ดแล้ว เขาจึงเลือกให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ แต่ก็มี ส.ว. บางคนที่เป็นอิสระ แต่อาจจะไม่มากเท่าไหร่นัก แม้จะมีการวิเคราะห์กันว่า ส.ว. ในปัจจุบันมี 2 ค่ายคือ ‘ตู่’ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) และ ‘ป้อม’ (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี)  

โทนี่ ระบุอีกว่า แม้ค่ายป้อมจะเล็กกว่าค่ายตู่ แต่ก็ยังมีค่ายอิสระ และวันนี้เข้าใจว่ากฎหมายตั้งขึ้นมาเพื่อพยายามสืบทอดอำนาจ และในเรื่องของการดำรงตำแหน่งห้ามเกิน 8 ปีนั้น จริงๆ เขามองเพื่อกันไทยไว้ แต่เมื่อตัวเองครบ 8 ปีจริงๆ กลับอยากอยู่ต่อ เลยหาวิธีสารพัดมา 


ปลุกประชาชนเลือกตั้งแบบยุทธศาสตร์ มั่นใจคะแนนเพื่อไทยไปไกลถึง 300 เสียง 

โทนี่ กล่าวว่า พรรคฝั่งประชาธิปไตยต้องช่วยตัวเอง และประชาชนก็ต้องคิดว่า ถ้าจะสู้กับ ส.ว. ที่แต่งตั้งแบบนี้ ก็คงต้องให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน โดยการเลือกตั้งแบบมียุทธศาสตร์คือ เลือกพรรคใดพรรคหนึ่งให้คะแนนเยอะๆ แล้วก็เลือกฝั่งประชาธิปไตยด้วยกัน ถ้าไม่ชอบพรรคหลักก็เลือกพรรครองอะไรก็ว่าไป แต่ก็ยังยืนยันว่า พรรคฝั่งประชาธิปไตยน่าจะรวมกันได้ 375 เสียง ซึ่งไม่ต้องการ ส.ว.เลย แต่ถ้า ส.ว. ค่ายอิสระ มองว่า ประชาชนมีมติมาแบบนี้ก็ต้องยกมือตามประชาชน 

“คิดว่าวันนี้ประชาชนเขาเข็ดแล้ว ทั้งการบริหารที่ผิดพลาด บริหารแบบไม่บริหาร แล้วก็มี ส.ว. มาเป็นที่ระคายอารมณ์ชาวบ้าน ประชาชนคงใช้ปากกาในวันนั้นเป็นวันพิฆาตการเมืองระบอบเผด็จการไปสู่การเมืองแบบประชาธิปไตยแม้ว่ารัฐธรรมนูญจะไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ก็ต้องเริ่มต้นด้วยวิญญาณของคนที่เป็นประชาธิปไตยมาพร้อมกันแล้วค่อยแก้ไข” โทนี่ กล่าว 

โทนี่ ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า วันที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงเลือกตั้งในปี 2554 วันนั้นคะแนนพรรคเพื่อไทยอยู่ที่ 48% ได้มา265 เสียง เมื่อมองในวันนี้ คะแนนพรรคเพื่อไทยก็อยู่ที่ 48% แล้ว แต่ยังไม่พีค เพราะยังไม่ได้ออกนโยบายที่เรียกว่า“เมนคอร์ส” และยังไม่ได้ยุบสภา ซึ่งตนคิดว่า วันนั้นคะแนนของพรรคเพื่อไทยน่าจะเกิน 48% ไปอีก และเท่าที่ดูตัวผู้สมัครในแต่ละเขตก็คิดว่า พรรคเพื่อไทยมีตัวที่ดีๆ เยอะ ทั้งรุ่นใหม่ และนักการเมืองที่อยู่มานานก็เป็นไปได้ที่จะแตะ300 เสียง ซึ่งนี่เป็นการคาดการณ์แบบคนมีประสบการณ์ทางการเมือง และจากตัวเลขที่เล่นมาตลอด

โทนี่ กล่าวว่า สมมติในกรณีที่พรรคฝ่ายประชาธิปไตยได้มา 300 เสียง แต่ไม่ถึง 375 เสียง และพล.อ.ประยุทธ์ ได้เกิน25 เสียง และเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ ส.ว. ยกมือโหวตให้ก็จะเป็นรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพเลย แต่ในวันที่บทเฉพาะกาลของ ส.ว. หมดอำนาจในการที่จะโหวตเลือกนายกฯ พรรคฝ่ายประชาธิปไตยจะสามารถคว่ำพล.อ.ประยุทธ์ ได้สบายๆ แต่ทั้งนี้คิดว่า คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้น เพราะถ้าพรรคฝ่ายประชาธิปไตยได้เยอะมากพอจนไม่ต้องการเสียง ส.ว. เราก็ปล่อยอิสระให้ ส.ว. เขารักใครชอบใครก็เลือกคนนั้น 

ขณะที่ในกรณีที่หากรัฐบาลสามารถอยู่ได้เพียงหนึ่งปีครึ่งนั้น คงต้องย้อนไปสมัยพรรคไทยรักไทยที่ตนเป็นนายกฯและโดนกล่าวหาเรื่องซุกหุ้น ซึ่งตนก็ได้ออกมาแถลงข่าวว่ากว่าเรื่องจะจบก็ 6 เดือนกว่า แล้วตนก็มั่นใจว่านโยบายที่เคยประกาศไว้ได้ลงมือไปแล้วทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น กองทุนหมู่บ้าน พักหนี้เกษตรกร 30 บาทรักษาทุกโรค เพราะฉะนั้นจึงเชื่อว่าถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลแล้วอยู่เพียงแค่หนึ่งปีครึ่ง แต่ในความเป็นจริงไม่ได้แบบนั้น เวลาก็เหลือเฟือให้ทำตามนโยบายที่พรรคเพื่อไทยเคยประกาศไว้

โทนี่ กล่าวอีกว่า อยู่ที่ประชาชน เพราะถ้าประชาชนมองว่า นี่คืออุปสรรคของประเทศทำให้ประเทศแย่มา 8 ปีก็ต้องกลับมาพึ่งฝ่ายการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะฝ่ายการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง เขาต้องรับผิดชอบต่อประชาชนที่เคยสัญญาไว้แล้ว เพราะฉะนั้นจึงอยู่ที่ประชาชนตัดสินใจถ้าประชาชนตัดสินใจแล้วก็โหวตแบบมียุทธศาสตร์ก็ไม่ยากเลย 

“ยังไงพรรคการเมืองก็รวมกันได้เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ สมมติว่า มีพรรคหนึ่งเป็นพรรคนำได้มา 300 เสียง ขาดอีก 75 เสียงมันหาง่าย เพราะฉะนั้นมันอยู่ที่จะเอาใครยังไง อย่างพรรคก้าวไกล พรรคประชาชาติ แล้วก็มีเสรีรวมไทยที่เป็นฝั่งฝ่ายค้านมา ดังนั้นคิดว่า ฝั่งฝ่ายค้านวันนี้น่าจะรวมกันแล้ว 375 เสียง ต่อให้ไม่ได้ก็ใกล้ที่สุด และมี ส.ว. ที่เป็นกลางเห็นกระแสประชาชนแบบนี้ก็คงไปตามประชาชน และเราไม่จำเป็นต้องใช้กล้วย  เพราะมันจะทำลายระบบ ถ้าคนที่ต้องทำแบบนั้นก็ต้องไปหาเงินบนภาษีของประชาชน สุดท้ายบ้านเมืองไม่ได้ไปไหน” โทนี่ กล่าว 


สอนมวย กกต. เลิกเล่นแง่  ทำอะไรลำบากขึ้นเพราะประชาชนตื่นตัว 

โทนี่ ให้ความเห็นว่า มันดีอย่างหนึ่งที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ต่างคนต่างอยากเป็นนายกฯ ซึ่งทำให้เสียงของ กกต. มันถ่วงดุลขึ้นเพราะ กกต. บางคนก็เป็นพวก พล.อ.ประยุทธ์บ้าง พวก พล.อ.ประวิตรบ้าง และในเรื่องของการนับคะแนน ตนก็เห็นว่า หลายองค์กรของประชาชนจะไปนับคะแนนกันหน้าหน่วยเพราะไม่ไว้ใจ กกต. ซึ่งการที่ กกต. จะทำอะไรมันไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน เพราะประชาชนตื่นตัว และวันนี้ประชาชนเขาเข็ดหลาบกับ 8 ปีที่ผ่านมา และวันนี้ที่พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศจะยุบสภาก็มีเสียงเฮของประชาชน

ด้าน สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวเสริมว่า ทางสื่อมวลชนที่เริ่มมาตั้งแต่การนับคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ก็มีการเริ่มหารือกันแล้ว และทางไอลอว์ก็มีการเปิดรับสมัครคนสังเกตการณ์หน้าหน่วยเลือกตั้ง 90,000 คน ในขณะที่พรรคการเมืองก็มีการสนใจเรื่องนี้ เนื่องจากมีเหตุการณ์หลายอย่างที่กระตุ้นให้คนตื่นตัว แม้ว่าในตามปกติของการเลือกตั้งจะมีการนับคะแนนแบบเรียลไทม์ แต่ถ้าครั้งนี้ไม่มีการเผยแพร่คะแนนแบบดังกล่าวก็เป็นหน้าที่ของภาคประชาชนและสื่อมวลชนที่คงจะต้องทำงานกันเอง

AC0C2FBF-B85F-47CD-9409-7B290ED60D48.jpeg


ค้าน ‘ยุบพรรค’ ชี้เป็นการประหารชีวิตทางการเมือง 

โทนี่ กล่าวว่า อาจจะเป็นการเตรียมการเผื่อไว้ เพราะถ้าหากจับพลัดจับผลู พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อยากจะอยู่ต่อจริงๆ ก็คงจะด้านเต็มที่ แต่ก็เชื่อว่าปฏิกิริยาของประชาชนจะไม่เหมือนเดิม แม้จะทำแบบเดิมแต่ผลลัพธ์จะออกมาไม่เหมือนเดิม ซึ่งโดยส่วนตัวตนไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรค เพราะการยุบพรรคการเมืองเท่ากับการประหารชีวิตในทางการเมือง และบางครั้งการยุบพรรคก็เป็นเรื่องขี้หมูขี้หมาไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย 

ยกตัวอย่างพรรคพลังประชารัฐที่รับเงินจาก ‘ตู้ห่าว’ ตนก็ไม่เห็นด้วย เพราะวันนั้นเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ตู้ห่าวจะมีพฤติกรรมแบบนั้น นอกจากนี้ในทางกฎหมายตู้ห่าวยังได้สัญชาติไทย และการยุบพรรคเป็นสิ่งที่ไม่ดี ทำให้ไม่ส่งเสริมประชาธิปไตย จึงอยากให้ยกตัวอย่างการยุบพรรคไทยรักไทย ซึ่งมีสมาชิกอยู่แล้ว 14 ล้านคน พอยุบพรรค และทำให้การรับสมาชิกยากขึ้นเนื่องจากไม่อยากให้ประชาชนเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยอันนี้เรียกว่า เป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย จึงขอฝากเอาไว้ว่า ทำอะไรให้นึกถึงประเทศชาติ ถึงแม้ว่าจะมีคนเลือกท่านมา เพราะถ้าประเทศไม่เกิดความน่าเชื่อถือก็จบเศรษฐกิจแย่ และลูกหลานขาดโอกาส 

ส่วนข่าวลือที่ว่าจะมีการยุบพรรคพลังประชารัฐ พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยนั้น โทนี่ กล่าวว่า ข่าวลือคือข่าวที่คนปล่อยอยากให้เป็นจริง เพราะฉะนั้นคนปล่อยอยากให้เป็นจริงก็คือการแช่งเพื่อที่ตัวเองจะได้ชนะง่ายหน่อย และเป็นแท็กติกของการที่จะตกเบ็ดเอา ส.ส. ที่ขวัญอ่อน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูง จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ข่าวลือแบบนี้ขึ้นมา 

โทนี่ ทักษิณ -A8EA-4BA5-8BF3-71D67CE23CC2.jpeg


ยัน 'เพื่อไทย' คว้า ส.ส.ใต้ หลัง ‘นิด้าโพล’ เผยกระแสแรงเมืองคอนฯ

ส่วนกรณีที่นิด้าโพลระบุว่า พรรคเพื่อไทยมีความนิยมใน จ.นครศรีธรรมราช และจ.ชลบุรี โทนี่ กล่าวว่า ในสมัยพรรคไทยรักไทยกระแสยังไม่แรงเท่าพรรคเพื่อไทยตอนนี้ โดยเฉพาะที่ จ.นครศรีธรรมราช และจ.ชลบุรี ซึ่งคราวที่แล้วพรรคเพื่อไทยไม่ได้ ส.ส. เลย และในวันนี้ที่ จ.นครศรีธรรมราช คะแนนตัวนายกฯ เป็นอันดับสองแพ้ไป 8% แต่คะแนนของทั้งพรรคมาเป็นอันดับหนึ่ง เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส. ภาคใต้เกิน 1 คนอย่างแน่นอน 


ชี้ ‘ป้อม’ มีความพยามเป็นนายกฯ สูง ! พร้อมแข่งกับอดีตน้องรัก 

โทนี่ กล่าวว่า พรรคที่ไม่ใหญ่มาก มันง่ายที่จะสอดแทรกไปเป็นรัฐบาล แต่ พล.อ.ประวิตร ก็ดูพยายามเป็นนายกฯมากๆ และการออกเพลง ‘ป้อม 700’ เรียกว่า มีความพยายามสูงก็คงพร้อมจะแข่งกับอดีตน้องรักที่ตอนนี้ไม่ค่อยรักกันมากเท่าไหร่ แต่ก็แข่งกันไปแบบหวังเอา ส.ว. มาช่วย ต่างคนต่างหวังก็คนละครึ่ง สมมติว่า ข้างละ 100 เสียง ถ้าพล.อ.ประวิตรได้มา 50 รวมกับ ส.ว. เป็น 150 และตนคิดว่า การเมืองในตอนนี้มีพรรคเล็กเยอะจะประกอบด้วยพรรคที่เกินครึ่งหนึ่งพรรค พรรคที่อยู่ระหว่าง 50-70 สองพรรค นอกนั้นจะเป็นพรรคประมาณไม่ถึง 10-30


ย้ำ ‘ขรก.’ ไม่ใช่อุปสรรค แต่ต้องมีผู้นำที่ดี เชื่อขรก. รับลูก หนุนสตาร์ทเงินเดือน 25,000 

โทนี่ กล่าวว่า ตนเคยรับราชการมาก่อนจึงรู้ว่า ข้าราชการจะเชื่อผู้นำ ถ้าผู้นำมียุทธศาสตร์ที่ดี ข้าราชการก็พร้อมจะทำตาม ให้ข้าราชการเป็นนายประชาชนก็ถนัด หรือเป็นผู้บริการประชาชนก็ถนัด มันอยู่ที่ว่าใครเป็นผู้นำองค์กรที่สร้างวัฒนธรรมองค์กรขึ้นมา ตนจึงคิดว่า ข้าราชการไม่ใช่ปัญหา ข้าราชการมีวินัย แล้วยิ่งวันนี้นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่จะปรับเงินเดือนขั้นต่ำของข้าราชการเริ่มต้นที่ 25,000 บาท ยิ่งทำให้ข้าราชการพร้อมจะร่วมมือ เพราะเขาอยากให้ครอบครัวของเขามีรายได้ที่ดีขึ้น 

โทนี่ กล่าวว่า ในวันนี้ที่ประเทศจีนเงินเดือนขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 25,000-30,000 บาท และองค์กรใหญ่ๆ ก็มีการจ้างงานไปเยอะ ส่วนประเทศเกาหลีใต้อยู่ที่ 80,000 บาท ดังนั้นเราต้องกลับมาคิดดูว่า จะปล่อยให้คนของเราจนอยู่แบบนี้ ไม่มีกำลังซื้อแบบคนทั่วโลกเขาหรือเปล่า ฉะนั้นเรื่องการปรับเงินเดือนข้าราชการมันอยู่ตรงที่ข้าราชการพร้อมร่วมมือแต่สำคัญคือผู้นำต้องใช้เขาให้เป็น 

“แม้ตอนไทยรักไทยจะใช้ข้าราชการเยอะทำให้ข้าราชการเหนื่อย แต่เท่าที่ดูตอนนี้แล้วพบว่า ข้าราชการยังอยากให้เพื่อไทยเป็นรัฐบาล เพราะเขามองว่าพรรคเพื่อไทยอยู่แล้วเจริญ ลูกหลานมีอนาคต ก็เป็นเรื่องที่ตนไม่ค่อยหนักใจเรื่องข้าราชการ” โทนี่ กล่าว 


‘การเมือง’ นำ ‘การทหาร’ แสวงหาความร่วมมือแก้ปัญหาชายแดนใต้ 

โทนี่ กล่าวยอมรับว่า ตนมีทั้งการบริหารชายแดนใต้ที่ถูก และผิด โดยในตอนที่ ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรีตนก็ได้ไปที่ประเทศมาเลเซียก็ไปพูดคุยกับคนไทยที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น และได้ไอเดียมาในที่สุดว่า ชายแดนใต้ต้องเอาการเมืองนำการทหาร การทหารเป็นตัวนำใช้กฎหมาย หรือใช้มือหนักเข้าไปจะทำให้การแสวงหาความร่วมมือลำบาก ดังนั้นการแสวงหาความร่วมมือตามที่เคยเสนอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 แล้วท่านรับสั่งก็คือ เข้าถึง เข้าใจพัฒนา คือเข้าให้ถึงเขา และเข้าใจเขาให้ได้ก่อนที่จะพัฒนาจึงจะทำให้การอยู่ร่วมกันของคนต่างศาสนา ต่างความเชื่อถือ ต่างวัฒนธรรมอยู่กันได้ เพราะเป้าหมายเดียวกันคือ เป้าหมายทำให้ประเทศบ้านเมืองสงบ และเจริญ ดังนั้นคิดว่าทางเพื่อไทยก็น่าจะเดินตามแนวนี้ 

ด้าน สุรพงษ์ กล่าวว่า ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ คนที่รับผิดชอบชายแดนใต้ตอนนั้นคือ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่ได้ลงไปทำงานในนามของรัฐบาล และสามารถทำงานแล้วสร้างความเข้าใจ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับประชาชนในสามจังหวัดใช้แดนภาคใต้ อีกทั้งหลายเรื่องมีความคืบหน้าอย่างเป็นลำดับ น่าเสียดายที่เกิดการรัฐประหารก่อนไม่อย่างนั้นปัญหาต่างๆ น่าจะคลี่คลาย จะทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจ และชีวิตของคนในพื้นที่กลับมามีความสุขอย่างมากมาย 


ยันไม่เกี่ยวข้องคดีซื้อเครื่องบินการบินไทย ชงบอร์ดการบินไทยก่อนเข้าครม. จวกพยานบางคนให้การเท็จ 

โทนี่ ชี้แจงว่า ปกติแล้วการซื้อเครื่องบิน ต้องเริ่มต้นที่ความต้องการของการบินไทย และการบินไทยต้องทำแผนผ่านบอร์ดบริหาร ผ่านกระทรวงคมนาคมแล้วผ่านสภาพัฒน์ถึงเข้าจะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกฯ ถึงไปรู้ตอนครม. ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเลือกแบบนี้ก็เป็นเรื่องของการบินไทยจะเป็นเรื่องของนายกฯ ได้อย่างไร

โทนี่ ชี้แจงว่า ตนไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ทุกคนที่กลัวผิดก็จะโยนมาให้ตน ทั้งๆ ที่ตนไม่รู้เรื่องเลย ตนอยู่ข้างบนก็ไปอ้างเรื่อยว่า ตนไปเจรจาเอง จึงอยากถามว่า “นายกฯ ควายที่ไหนเขาจะดูราคาซื้อขาย” คือมันเป็นเรื่องของการที่ตนไม่อยู่บ้านพวกเลยยัดคดีให้ และในนั้นก็มีคนให้การเท็จ ดังนั้นประเด็นนี้ชี้แจงง่ายมาก ถ้าสามารถอ่านรายงานของการให้การของพยานแต่ละคนได้ ก็จะรู้เลยว่า มีคนให้การเท็จ 

55DBDB92-E674-4BFF-92B8-345D10DBFC91.jpeg


เชื่อ 320 เสียงไม่ยากจับมือปีก ปชต. ไม่คิด 'อิ๊งค์' อุ้มท้องสู้

โทนี่ ระบุว่า เชื่อว่า 320 เสียงไม่น่าจะยาก สำหรับฝ่ายประชาธิปไตยรวมกัน

ผู้ฟังทางบ้านถามว่า 4 พรรคการเมือง พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ ต้องได้ 125 เสียง ถ้า 4 พรรคนี้ไม่ถึง 125 พรรค หลายค่ายก็ไม่เชื่อ  โดย โทนี่ ระบุว่า "อยู่ที่ประชาชน ทุกพรรคตั้งความหวัง ทำงานสู้ไป แต่พรรคเพื่อไทยสู้หนักหน่อย แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย อุ้มท้องไป 6-7 เดือน จริงๆ แพทองธารเป็นลูกคนเล็ก ไม่เคยคิดว่าเขาจะสู้ขนาดนี้ ผมนึกไม่ถึงว่าสูู้ แต่นึกไม่ถึง"

ถามถึงโทนี่มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยได้ 320 เสียง ถ้าเกิดไม่ถึง แต่พรรคฝ่ายค้านก็ต้องรวมให้ได้ 280 เสียงแล้วหาพรรคอื่นมาเติม โทนี่บอกว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านทำงานมาตลอด โอกาสจะทำงานต่อไปไม่น่ามีปัญหาอะไรมากมาย ตนเดาเอา จากการทำงานร่วมกัน จากการประชุมร่วมกันก็ทำงานร่วมกันได้ เหมือนซ้อมการทำงานร่วมกันมา 4 ปี

โทนี่ ระบุว่า จำได้ไหมตนเคยเปิดเผยทรัพย์สินเมื่อปี 2537 สมัยเข้าเล่นการเมืองกับพรรคพลังธรรม และเป็น รมว.ต่างประเทศ ขณะนั้นตนได้เปิดเผยและสื่อไปพาดหัวข่าวว่า ตนมีทรัพย์สิน 58,000 ล้านบาท ตั้งแต่อายุ 45 ปี วันนี้ถามอีกทีเหลือวาระอีกนิดเดียว ปัญหาคือสปิริตสำคัญที่สุด กฎหมายยังสู้สปิริตไม่ได้ สังคมไทยชอบมีกฎหมายไว้เลี่ยง ถ้าต่างประเทศกฎหมายว่าไง จะปฏิบัติตาม แต่ของเรากฎหมายก็มีนักเลี่ยงกฎหมายประจำตัวด้วย


หนุนกฎหมายลงโทษรัฐประหารย้อนหลัง

ถามว่าการเลือกตั้งรอบนี้ฝ่ายประชาธิปไตยก็ยากแล้วการรักษาให้ฝ่ายประชาธิปไตยก็ยากกว่า จะทำยังไงไม่ให้ปฏิวัติวันข้างหน้าอีกและตลอดไป โทนี่ ระบุว่า การปฏิวัติยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะการปฏิวัติสองครั้งที่ผ่านมา บ้านเมืองฉิบหาย คนก็รู้แล้ว จะมีแต่พวกเกาะขั้วอำนาจไว้ก็จะสนับสนุน แต่ไม่มีอาชีพแต่มีเงินมากกว่าทคนทำมาหากิน ตนคิดว่าบ้านเมืองบอบช้ำมามากต้องได้รับการดูแลจากประชาชน โดยใช้สิทธิเลือกตั้งให้เยอะ เลือกอนาคตตัวเองให้ได้ แล้วขณะเดียวกันบ้านเมืองเป็นเรื่องคนเราทุกคนต้องใส่ใจดูแล ตรงไหนประโยชน์กับประชาชนต้องปกป้อง ดังนั้นต้องตื่นตัว 

นอกจากนี้ โทนี่ยังสนับสนุนว่าน่าจะมีกฎหมายลงโทษการทำรัฐประหารปฏิวัติย้อนหลังแบบต่างประเทศ พร้อมระบุว่า ถ้าตนพูดเช่นนี้ จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่ออีก 12 ปีได้ ของเราปฏิวัติก็ฉีกรัฐธรรมนูญ แล้วนิรโทษกรรม ต้องแก้ไขกฎหมายยกเลิกนิรโทษกรรม

ผู้ฟังทางบ้านถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่ทุนสีเทา แต่คนที่เซ็นสัญชาติให้ทุนจีนสีเทาเป็นรัฐบาลเมื่อปี 2554 แต่หลักฐานก็ออกมาชัดแล้วว่า พล.อ.อนุุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นคนเซ็น และพูดทิ้งท้ายว่าขายบ้านแล้วให้สัญชาติ ทำให้ โทนี่ ระบุว่า "ขายบ้านให้สัญชาตินี่ ผมคิดว่าคนพูดนอกจากไม่ใช่คนแล้วน่าจะเป็นควาย ขายบ้านให้สัญชาติได้ด้วยเหรอ บ้านหลังหนึ่งกำไรกี่ตังค์ ทำไมต้องขายบ้านให้สัญชาติ ประเทศเราเป็นประเทศของเอสซีแอสเสทเหรอ วันนี้ไม่มีเหตุมีผล น่าสังเวชจริงๆ กับคนที่คิดอย่างนี้"

"ขายบ้านนี่นะ แค่แถมมอเตอร์ไซค์ก็ไม่กล้าแถม แต่ถ้าแถมสัญชาติ ก็บ้าไปแล้ว ซื้อบ้านหลังละ 50 ล้านบาท แสนล้านยังอีกเรื่อง เอสซีแอสเสทก็ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล การซื้อบ้าน น่าที่ตรวจสอบที่มาของเงินก็คือธนาคาร ทุกคนมาซื้อเราก็ไม่รู้ ถ้ามีสัญชาติถูกต้องก็ซื้อได้ มีสัญชาติแล้วซื้อได้ ถึงบอกคนที่พูดไม่ใช่คน เป็นควายดีๆ นี่เอง" โทนี่ กล่าว

09B7C389-3829-49A8-A341-F22A755CA17A.jpeg


ในช่วงมีการถามว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ตั้งรัฐบาลมี แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงหรือไม่ว่าจะต้องถูกม็อบออกมาท้องถนนเหมือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้วนายกฯ ในดวงใจคิดว่าเป็นใคร โทนี่ กล่าวว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยกำลังหาให้ใช้ตามสิทธิเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ 3 คน แม้ แพทองธาร จะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย แต่พรรคเพื่อไทยก็ต้องมาลงมติกันอีกว่า 3 คนที่เสนอชื่อ ตอนจะเสนอนายกฯ จะเสนอใครเป็นอีกเรื่องที่ตนไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค คิดว่าตอนนั้นก็คงต้องแล้วแต่กรรมการบริหารพรรคจะตัดสิน ตนคิดว่าวันนี้ ตนห่วงลูกสาวแน่นอน เพราะลูกเป็นกล่องดวงใจของพ่อ 

"เขา (พล.อ.ประยุทธ์) อาจจะยุบสภาฯ 22 มี.ค.ก็ได้นะ วันที่ 21 มี.ค. ฉลองวันเกิดตัวเองก่อน"

โทนี่ ระบุุว่า "พรรคเพื่อไทยถือว่าฤกษ์ที่สำคัญก็คือฤกษ์ที่ประชาชนพร้อมจะเลือก ประชาชนพร้อมเลือกฝ่ายประชาธิปไตยอยู่แล้ว เลือกวันไหนก็ลุ้นตัวเองจะได้ 25 เสียง ไม่ 25 เสียงหรือไม่ เห็นแต่ละคนประกาศมาเป็นยาหมดอายุ"

"สมมติพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคมีกระแส ไม่ได้ซื้อ มีได้ตามกระแสสมมติได้ 30 แล้วก็สู้กัน 3 พรรคเต็มที่ได้มาคนละ 20-25 ก็เป็น 70 ทั้งหมดต่ำกว่า 20 เสียง พรรคเพื่อไทยก็ลอยขึ้นไป"

3C6EF460-BB36-4ADF-858A-AE78D9DA1E57.jpeg