นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) เชื่อคลิปเสียง สนช. อ้างใบสั่งจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ล้มการสรรหาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นการตัดต่อ ไม่ใช่การประชุมวิป สนช. 100% เพราะตนอยู่ในที่ประชุมตลอดก็ไม่มีการคุยเรื่องนี้ รวมทั้งไม่น่าจะใช่การประชุมคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ที่มีพล.อ.อู๊ด เบื้องบน เป็นประธานด้วย เพราะตนร่วมเป็นกรรมาธิการฯ ชุดดังกล่าว ไม่เคยได้ยินว่ามีการพูดคุยตามเนื้อหาในคลิป อีกทั้งเสียงในคลิปกระโดดเหมือนนำเสียงในการประชุมวงต่างๆ มาตัดต่อรวมกัน แต่ไม่ทราบว่าเสียงที่พูดในคลิปนั้นเป็นเสียงของสมาชิกสนช.จริงหรือไม่ เดายาก และเดาไปก็เสียหาย

ส่วนกรณีเนื้อหาในคลิปที่ระบุว่านายกรัฐมนตรีไม่แฮปปี้กับรายชื่อ 14 ผู้สมัครที่ได้รับการเสนอชื่อเป็น กสทช. นั้น เชื่อว่าไม่เป็นความจริง เพราะนายกฯ สั่งสนช.ไม่ได้อยู่แล้ว และก็ไม่เคยสั่ง สนช. แต่ที่โหวตไม่เลือกผู้ได้รับการเสนอชื่อเหล่านี้ เพราะพบว่ามีคุณสมบัติไม่ถูกต้อง เคยถือหุ้นหรือเป็นผู้บริหาร พนักงานในบริษัทที่เกี่ยวกับกิจการวิทยุโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งเรื่อง กสทช.เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลายแสนล้านบาท มีทั้งคนลุ้นอยากให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อชุดนี้ได้เป็นและไม่ได้เป็น ที่ผ่านมามักมีการแอบอ้างมาตลอดว่าผู้สมัครคนโน้นคนนี้เป็นคนของนายกฯ หรือ คสช. จึงมั่นใจว่าเป็นการแอบอ้างคงไม่ใช่ฝีมือของ สนช. ปล่อยคลิปแทงกันข้างหลังแน่นอน

อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในวันที่ 23 หรือ 24 เมษายน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. น่าจะเซ็นคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคลิปดังกล่าวได้ เพราะทำให้เกิดความเสียหายต่อ สนช.

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าลักษณะนี้คล้ายกับการคว่ำ รายชื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน 7 คน ก่อนหน้านี้ จึงจะต้องรอดูว่า สนช. จะมีการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระบวนการดังกล่าวอย่างไร และจะมีการสอบสวนเกี่ยวกับคลิปเสียงหลุดอย่างไร รวมถึงจะต้องติดตามว่า คณะกรรมการสรรหาฯ จะมีการชี้แจงอย่างไร และได้มีการกลั่นกรองผู้สมัครแล้วหรือไม่ เนื่องจากบางคนขาดคุณสมบัติ แต่กลับมีชื่อขึ้นมาให้ สนช. พิจารณา ดังนั้นหากเกิดความล้มเหลวหลายครั้งก็ควรมีการออกมารับผิดชอบ

นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า รู้สึกแปลกใจ ที่คณะกรรมการสรรหา และ สนช. ไม่ได้มีการพูดคุยกันอย่างจริงจัง เกี่ยวกับการสรรหาล้มการสรรหา ทั้ง กกต. และ กสทช. และเป็นห่วงว่า ในอนาคตหากมีผู้สมัคร ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจผ่านการคัดเลือก ก็อาจถูกครหาได้ว่า มีความชัดเจนที่มีการใช้สายสัมพันธ์ในการเข้าสู่ตำแหน่ง จึงควรชี้แจงถึงสาเหตุการล้มการสรรหาให้ชัดเจน