ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาเรื่องด่วนให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ตามที่คณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมฯ เสนอ โดยที่ประชุม สนช.ให้สมาชิกลงคะแนนลับ ซึ่งใช้เวลาลงมติและนับผลเป็นเวลากว่า 4 ชั่วโมง ผลปรากฎว่าไม่มีผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต.ได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงที่ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิก สนช.เท่าที่มีอยู่จำนวน 248 คน ซึ่งผู้ได้รับความเห็นชอบเป็น กกต.จะต้องได้เสียงเห็นชอบมากกว่า 124 คะแนน
โดยผลการลงมติมีดังนี้ 1.นายประชา เตรัตน์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด ชลบุรี
เห็นชอบ 57 คะแนน
ไม่เห็นชอบ 125 คะแนน
ไม่ออกเสียง 18 คะแนน
2.รศ.ดร. อิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ อดีตอธิการบดี มทร.รัตนโกสินทร์
เห็นชอบ 30 คะแนน
ไม่เห็นชอบ 149 คะแนน
ไม่ออกเสียง 21 คะแนน
3.นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.
เห็นชอบ 27 คะแนน
ไม่เห็นชอบ 156 คะแนน
ไม่ออกเสียง 17 คะแนน
4.นางชมพรรณ์ พงษ์เจริญ สุธีรชาติ ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท วรวิสิฏฐ์
เห็นชอบ 16 คะแนน
ไม่เห็นชอบ 168 คะแนน
ไม่ออกเสียง 16 คะแนน
5.ศ.ดร.เรืองวิทย์ เกษสุวรรณ อดีตอธิการบดี มรภ.ชัยภูมิ
เห็นชอบ 10 คะแนน
ไม่เห็นชอบ 175 คะแนน
ไม่ออกเสียง 14 คะแนน
สายที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 2 คน
1.นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา
เห็นชอบ 46 คะแนน
ไม่เห็นชอบ 128 คะแนน
ไม่ออกเสียง 26 คะแนน
2. นายปกรณ์ มหรรณพ ผู้พิพากษาศาลฎีกา
เห็นชอบ 41 คะแนน
ไม่เห็นชอบ 130 คะแนน
ไม่ออกเสียง 29 คะแนน
จากนั้นนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.คนที่ 2 ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุมแจ้งต่อที่ประชุมว่า กรณีที่ สนช.ไม่ให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งเป็น กกต. กรณีนี้ต้องดำเนินการสรรหาหรือคัดเลือกบุคคลใหม่แทน แล้วเสนอต่อ สนช.เห็นชอบต่อไป ทั้งนี้เป็นไปตามมาตรา217 ประกอบ 204 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560
'ประธาน สนช.' ปัดใบสั่ง คสช. โหวตคว่ำ 7 กกต.
ขณะที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. แถลงภาย สนช.มีมติไม่เห็นชอบกับ 7 ผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งกกต.ว่า หลังจากนี้จะต้องดำเนินการสรรหากกต.ทั้ง 7 คนใหม่ โดยเลขาธิการวุฒิสภา ในฐานะเลขาธิการ สนช.จะส่งหนังสือไปยังประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหา และเพื่อดำเนินการสรรหาใหม่ ทั้งในขั้นตอนการสรรหา จากคณะกรรมการสรรหา จำนวน 5 คน และจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกอีก 2 คน ซึ่งจะต้องดำเนินการสรรหาใหม่ให้เสร็จภายในกรอบเวลา 90 วัน
"ผมไม่ทราบว่า เหตุใดสนช.จึงลงมติไม่เห็นชอบบุคคลทั้ง 7 คน เพราะผมในฐานะกรรมการสรรหาไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับขั้นตอนของ สนช.ทำให้ไม่ทราบถึงเหตุผลที่สนช.ไม่เห็นชอบ โดยยืนยันว่า ไม่มีสัญญาณใด จาก คสช. และยืนยันว่า จะไม่กระทบต่อการเลือกตั้งอย่างแน่นอน เพราะกกต.ชุดปัจจุบันยังสามารถดำรงตำแหน่งได้อยู่"นายพรเพชร ระบุ
เมื่อถามว่า การที่สนช.ไม่ให้ความเห็นชอบเป็นเพราะ คณะกรรมการสรรหาเสนอรายชื่อบุคคลที่ไม่ดี ทำให้คณะกรรมการสรรหาฯเสียหน้าหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ส่วนตัวในฐานะกรรมการสรรหายืนยันว่า ได้พิจารณาอย่างดีที่สุดภายใต้กรอบของกฎหมาย แต่รู้สึกหนักใจและอยากให้บุคคลที่มีคุณสมบัติที่ดีมาสมัครกกต.ให้มากที่สุด ดังนั้น จะเสนอต่อคณะกรรมการสรรหาว่า 1.จะขยายเวลาการรับสมัครให้มากขึ้น และ 2.จะประชาสัมพันธ์ให้บุคคลที่มีคุณสมบัติครบเข้ามาสมัครให้มากขึ้น สำหรับสนช.ที่ไม่ได้ให้ความเห็นชอบกับบุคคล 2 คนที่ผ่านการสรรหาของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกานั้นคิดว่าสนช.จะไม่มีปัญหากับศาลอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. พ.ศ.2560 กำหนดให้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต. หากที่ประชุม สนช.ไม่ให้ความเห็นชอบแล้วจะเข้ารับการสรรหาเป็น กกต.ครั้งใหม่ไม่ได้ ซึ่งทำให้ 7 คนผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นกกต.ครั้งนี้จะเข้ารับการสรรหาอีกไม่ได้ ขณะที่ กกต.ชุดปัจจุบันจำนวน 5 คน จะต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมี กกต.ชุดใหม่เข้ารับหน้าที่แทน