ไม่พบผลการค้นหา
เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่แลงคาเชอร์ของสหราชอาณาจักรระบุว่า ทางหน่วยงาน “กำลังลงไปดู” กรณีที่พบว่า ริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีมนตรีสหราชอาณาจักร ปรากฏในวิดีโอกำลังไม่คาดเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์บริเวณที่นั่งผู้โดยสารด้านหลัง ในขณะที่รถยนต์กำลังขับอยู่บนถนน

อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรได้ออกมากล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ดังกล่าว โดยซูนัคระบุว่า กรณีดังกล่าวเป็น “การตัดสินใจที่ผิดพลาด” ของตัวเขาเอง ที่ทำการปลดเข็มขัดนิรภัยออกขณะการถ่ายวิดีโอเพื่อโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย ทั้งนี้ การไม่คาดเข็มขัดนิรภัยในสหราชอาณาจักรมีโทษปรับสูงสุดอยู่ที่ 500 ปอนด์ (ประมาณ 20,000 บาท)

โฆษกของซูนัคระบุว่า นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร “ยอมรับอย่างโดยดีว่ากรณีนี้เป็นความผิดพลาด และขอโทษ” ก่อนจะกล่าวเสริมว่า นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร “เชื่อว่าทุกคนควรคาดเข็มขัดนิรภัย” ทั้งนี้ วิดีโอดังกล่าวคาดว่าถูกถ่ายขึ้นบริเวณพื้นที่แลงคาเชอร์ ขณะซูนัคเดินทางเยือนพื้นที่ทางตอนเหนือของอังกฤษ

วิดีโอดังกล่าวซึ่งมีความยาวประมาณ 1 นาที ถูกถ่ายเพื่อเป็นการรณรงค์ “การยกระดับ” การใช้จ่ายของรัฐบาลสหราชอาณาจักรในรอบล่าสุด อย่างไรก็ดี ภาพในวิดีโอปรากฏให้เห็นถึงซูนัคที่กำลังพูดกับกล้อง ในขณะที่รถยนต์กำลังเคลื่อนตัวไปบนถนน พื้นหลังของภาพยังปรากฏให้เห็นถึงรถจักรยานยนต์ตำรวจ ที่ขับระนาบข้างเพื่อรักษาความปลอดภัยด้วย

กฎหมายของสหราชอาณาจักรกำหนดไว้ว่า ผู้โดยสารที่ถูกจับได้ว่าไม่คาดเข็มขัดนิรภัยเมื่อรถยนต์มีเข็มขัดนิรภัยให้ใช้งานได้ เว้นแต่จะได้รับการคุ้มครองตามข้อยกเว้นที่ชอบด้วยกฎหมาย อาจถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปรับเงิน ณ จุดเกิดเหตุจำนวน 100 ปอนด์ (ประมาณ 4,000 บาท) ทั้งนี้ ค่าปรับอาจพุ่งสูงถึง 500 ปอนด์ หากมีการนำเรื่องดังกล่าวขึ้นสู่การพิจารณาบนชั้นศาล

พรรคแรงงานได้ออกมาวิจารณ์ความผิดพลาดของซูนัค นายกรัฐมนตรีจากพรรคอนุรักษนิยมว่า การเห็นภาพวิดีโอซูนัคขณะไม่คาดเข็มขัดนิรภัยเป็น “การรับชมที่เจ็บปวดไม่รู้จบ” พร้อมยกประเด็นวิจารณ์ความไม่รู้เรื่องรู้ราวของซูนัค หลังจากมีภาพว่านายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรประสบกับปัญหาในการชำระเงินแบบระบบไร้สัมผัสด้วยบัตรของเขาเมื่อปีที่แล้ว “ริชี ซูนัค ไม่รู้วิธีจัดการกับเข็มขัดนิรภัย บัตรเดบิต บริการรถไฟ เศรษฐกิจ ประเทศนี้” โฆษกจากพรรคแรงงานกล่าว “รายการเหล่านี้มีเพิ่มขึ้นทุกวัน และมันทำให้การเห็นมันได้สร้างเจ็บปวดไม่รู้จบ”

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ซูนัค จากการที่นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ท RAF ในการเดินทางเยือนทางการเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (19 ม.ค.) โดยซูนัคได้เดินทางด้วยเครื่องบินระยะทาง 370 กิโลเมตรจากกรุงลอนดอนไปยังแบล็กพูลล์ ก่อนที่เขาในเวลาต่อมาจะบินไปยังดาร์ลิงตันด้วยระยะทาง 190 กิโลเมตร

เดซี คูเปอร์ รองหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตยของสหราชอาณาจักร ออกมาระบุว่า “ดูเหมือนว่านายกรัฐมนตรีจะคุ้นชินไปกับการบินว่อนไปทั่วด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว จนเขาลืมการคาดเข็มขัดนิรภัยบนรถยนต์”

ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่มีอายุ 14 ปี หรือมากกว่านั้น มีหน้าที่ที่จะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ รถตู้ และทุกยานยนต์ที่สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ ในขณะที่ผู้ขับมีหน้าที่รับผิดชอบเด็กที่มีอายุต่ำกว่ำ 14 ปีลงไป ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรมีข้อยกเว้นการคาดเข็มขัดนิรภัยหากมีใบรับรองแพทย์ หรือยานพาหนะที่ถูกใช้ในกิจการของตำรวจ งานดับเพลิง และงานกู้ภัย 

สำหรับพื้นที่สหราชอาณาจักรยกเว้นไอร์แลนด์เหนือนั้น ผู้ที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยจะไม่ถูกหักคะแนนใบอนุญาตการขับขี่ แต่ทางการกำลังพิจารณาการหักคะแนนในอนาคต โดยจากรายงานเมื่อปี 2564 ผู้โดยสารที่เสียชีวิตกว่า 30% จากอุบัติเหตุรถยนต์ในสหราชอาณาจักร ล้วนเป็นผู้ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งเป็นเป็นสถิติที่สูงมาก


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/uk-politics-64337866?fbclid=IwAR2U45qOBI2FkwZ_ndgcpaiJ9Il0C1XZeffibafIMxl_705Ca5vrUhucxRA