ไม่พบผลการค้นหา
'ชนินทร์' จวก’ประยุทธ์’ขยายสิทธิ์บัตรคนจนหวังผลเลือกตั้งหรือไม่ ชี้ประชาชนรับ แต่คงไม่เลือก

ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงการคลังเร่งจ่ายเงินผ่านบัตรคนจนรอบใหม่ให้ทันภายในวันที่ 1 มีนาคม 2566 ว่าการจ่ายเงินครั้งนี้ดูออกมาแต่ไก่โห่ว่ามีเจตนาหวังผลเชิงบวกต่อคะแนนเลือกตั้งใช่หรือไม่ ตั้งใจขยายสิทธิ์ผู้ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลในจังหวะเดียวกันกับช่วงหาเสียงเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค.ปีนี้ ใช่หรือไม่ ซ้ำรอยเดิมที่เคยทำในการขยายสิทธิ์ครั้งใหญ่ก่อนการเลือกตั้งปี 2562 จากจำนวนผู้ถือบัตร 7.5 ล้านคนเป็น 14.5 ล้านคนมาแล้ว ต่างเพียงในรอบนี้ประชาชนคงไม่หลงลูกไม้ตื้นๆแบบเดิมอีก หากจำนวนผู้รับสิทธิ์ครั้งใหม่ที่กำลังจะประกาศนี้สูงถึง 17-20 ล้านคนจริงตามที่เคยประกาศเป็นแผนไว้ มีแต่จะถูกวิจารณ์ว่าเป็นหลักฐานสะท้อนความไร้ประสิทธิภาพของการบริหารจัดการตลอด 4 ปีที่ผ่านมามากกว่า

ชนินทร์ กล่าวว่า งบประมาณของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่พลเอกประยุทธ์ตั้งไว้สำหรับปีงบประมาณ 2566 สูงถึงกว่า 35,000 ล้านบาท และหากคิดรวมวงเงินที่ใช้ในบัตรคนจน ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบันทะลุ2.5 แสนล้านบาทแล้ว เป็นเสมือนเงินเยียวยาจากความล้มเหลวของการบริหาร ไม่สามารถช่วยส่งเสริมให้ประชาชนรากหญ้ามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ กู้มามากมาย แต่ยิ่งแจกยิ่งมีแต่จะทำให้ประชาชนจนลง ต้องขยายจำนวนผู้รับสิทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้จากข้อมูลของสภาพัฒน์ฯในปี 2565 ยังระบุชัดเจนอีกว่าจำนวนคนยากจนในปี 2564 เพิ่มขึ้นจาก 4.3 ล้านคนในปี 2562 เป็น 4.4 ล้านคน และมีอีกหลายงานวิจัยที่สำรวจพบผู้อยู่ในสภาวะยากจนจริง แต่ตกหล่น ไม่ได้อยู่ในระบบของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกหลักล้านคนด้วย สะท้อนระบบจัดการที่ล้มเหลวเข้าไม่ถึงผู้ต้องได้รับการช่วยเหลือจริงอย่างชัดเจน จนสงสัยว่าหรือรัฐบาลหวังเพียงแจกเงินให้ถึงคนมากๆเพื่อให้ถือเป็นบุญคุณกันหรือไม่ 

“แจกกี่บาทประชาชนคงรับ แต่เขาคิดได้แล้ว เพราะคงไม่มีอิทธิพลที่จะทำให้ประชาชนเลือกพรรคของพลเอกประยุทธ์ พวกเขาลำบากมา 8 ปี นโยบายเพื่อไทยตอบโจทย์มากกว่าและยั่งยืน ทั้งค่าแรง 600 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท ราคาสินค้าเกศตรขึ้นยกแผง ลดค่าใช้จ่ายพลังงาน 3 เรื่องนี้มากกว่าเงินที่พลเอกประยุทธ์แจก จึงเชื่อว่า ประชาชนจะสนับสนุนเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์” ชนินทร์ กล่าว