ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การปราศรัยครั้งแรกของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ที่ จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมาไม่ได้ต่างไปจากการปราศรัยที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่พูดไปแล้วสร้างปัญหา ขาดตรรกะ เหตุผล เช่น “พูดว่าทำไปหลายอย่างมากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาหลายพรรคหลายปีและหลายเท่าด้วยซ้ำ” ซึ่งหลายรัฐบาลที่ พล.อ.ประยุทธ์อ้างถึง รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์พรรคร่วมรัฐบาลที่เคยยกมือโหวตพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐที่อาศัยใต้ร่มในการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หรือหลงลืมอดีต “เข้าตำราขว้างงูไม่พ้นคอ” เพราะเมื่อพูดออกไปจะโดนสวนกลับให้ได้รับความเดือดร้อนและเสียหาย การย้ายสังกัดพรรคขณะที่ยังเอาขาเกี่ยวอยู่อีกพรรคการเมืองหนึ่งอยู่ ทำลายหลักการประชาธิปไตยขีดความรับผิดชอบของพรรคการเมืองและการเป็นนายกรัฐมนตรีหมดสิ้น

ส่วนการประกาศจะพลิกโฉมประะเทศไทยให้ดีขึ้นให้ได้โดยเร็วภายใน 2 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ คงจะเป็นไปไม่ได้ ขนาดมีอำนาจเด็ดขาดหลังรัฐประหารเป็นทั้งหัวหน้าคสช.และนายกฯเกือบ 5 ปี ไม่มีฝ่ายค้าน ยังแก้ปัญหาไม่ได้ การปฏิรูปประเทศล้มเหลวไม่เป็นท่า อยู่มา 8 ปี ไม่พอจะขอต่ออีก 2 ปี แทนที่จะพลิกฟื้นประเทศมันอาจจะกลายเป็นการพลิกคว่ำประเทศแทนหรือไม่ การที่พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่สามารถหนีความรับผิดชอบในนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐหาเสียงไว้ ทั้งค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บาท/วัน จบอาชีวะ เงินเดือนเริ่มต้น 18,000 บาท จบปริญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้น 20,000 บาท โครงการ “มารดาประชารัฐ” เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 1,000 บาท/เดือน ลดภาษีบุคคลธรรมดา 10% ฯลฯ 

“อดใจรอพรรคเพื่อไทย ที่คิดนโยบายตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและทำได้จริงทุกนโยบาย หากพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์เป็นรัฐบาลเพื่อไทยจะทำให้ดู ไม่เกินปี 2570 พี่น้องผู้ใช้แรงงานได้ค่าแรง 600 บาทต่อวัน เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทและอีกหลายนโยบายมั่นใจในพรรคเพื่อไทยที่สามารถนำพาพี่น้องประชาชนและประเทศไทยไปสู่ความกินดีอยู่ดีเฉกเช่นในอดีตที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว วันนี้ประชาชนรอว่าเมื่อไหร่จะถึงวันเลือกตั้ง และพร้อมที่จะเปลี่ยนให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์เพื่อมาเป็นรัฐบาลแล้ว” ตรีชฎา กล่าวทิ้งท้าย