ไม่พบผลการค้นหา
รัสเซียกล่าวหายูเครนว่าวางแผนโจมตีไครเมีย ดินแดนที่ถูกผนวกไปเป็นของรัสเซียเมื่อปี 2557 ด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ รัสเซียยังเตือนว่าพวกเขาพร้อมจะตอบโต้หากเหตุการณ์เป็นเช่นนั้น

เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวกับที่ประชุมเจ้าหน้าที่ทหารเมื่อวันอังคาร (20 มิ.ย.) ว่า ทางการรัสเซียมีข้อมูลว่ายูเครนมีแผนที่จะโจมตีไครเมีย ด้วยระบบจรวดพิสัยไกลไฮมาร์ส ที่สหรัฐฯ จัดหาให้ และรวมถึงการใช้ขีปนาวุธร่อนสตอร์มชาโดว์ที่สหราชอาณาจักรจัดหาให้ด้วยเช่นกัน

“การใช้ขีปนาวุธเหล่านี้นอกเขตปฏิบัติการพิเศษทางทหารของเรา หมายความว่าสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรจะถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้งอย่างเต็มรูปแบบ และจะนำมาซึ่งการโจมตีทันทีต่อศูนย์การตัดสินใจเชิงนโยบายในยูเครน” ชอยกูกล่าว

รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนเข้าเป็นของตัวเองในปี 2557 และถือว่าไครเมียอยู่นอกขอบเขตของการรุกราน ซึ่งรัสเซียกำลังมุ่งเน้นไปทางพื้นที่ตะวันออกและตอนใต้ของยูเครน ที่ยูเครนกำลังต่อสู้เพื่อยึดดินแดนกลับคืนมา ในทางตรงกันข้าม ทางการยูเครนกล่าวว่าพวกเขาต้องการยึดดินแดนทั้งหมดคืน รวมถึงไครเมีย ซึ่งเป็นฐานทัพเรือทะเลดำของรัสเซีย

ชอยกูระบุว่า กองกำลังติดอาวุธของยูเครนทำการโจมตี 263 ตำแหน่งในรัสเซีย ตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. โดยชอยกูอ้างถึงมุมมองของรัสเซีย ที่เชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการตอบโต้รุกกลับจากยูเครน “ต้องขอบคุณการกระทำที่ชาญฉลาดและเสียสละของหน่วยของเรา พวกมันทั้งหมด (การโจมตี) จึงถูกขับไล่ ศัตรูยังไม่บรรลุเป้าหมาย” ชอยกูกล่าว

ในอีกทางหนึ่ง ยูเครนกล่าวว่ากองทัพยูเครนสามารถยึดคืนหมู่บ้าน 8 แห่งได้ในช่วงแรกของการโจมตีตอบโต้ และคิดเป็นพื้นที่ 113 ตารางกิโลเมตร และเจ้าหน้าที่กลาโหมยูเครนให้คำมั่นว่ายูเครนจะมีการ “โจมตีครั้งใหญ่ที่สุด” ที่รออยู่ข้างหน้า แม้จะมีการต่อต้านอย่างหนักจากกองทหารของรัสเซียก็ตาม

“ในเวลานี้ ทหารของเราทางใต้และตะวันออกกำลังทำลายศัตรูอย่างแข็งขัน และชำระล้างยูเครน” โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวในวิดีโอแถลงการณ์ “การป้องกันการก่อการร้ายหมายถึงการทำลายผู้ก่อการร้าย และเป็นการรับประกันว่ารัฐแห่งความชั่วร้ายจะไม่มีโอกาสนำความชั่วร้ายมาสู่ยูเครน”

เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่าเมื่อวันอังคาร รัสเซียโจมตีเป้าหมายทางทหารและโครงสร้างพื้นฐานในยูเครนและส่วนอื่นๆ ของประเทศ รวมถึงพื้นที่ทางตะวันตกที่ห่างไกลจากแนวหน้ารบ 

นอกจากนี้ เมื่อวันอังคารเดียวกัน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในเมืองโนวาคาคอฟกา ที่รัสเซียควบคุมอยู่ทางตอนใต้ของเคอร์ซอน ระบุว่า การโจมตีด้วยโดรนของยูเครนทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน โดยเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียระบุว่า การโจมตีสถานบริการสาธารณะดำเนินการโดยใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่เรียกว่า "โดรนกามิกาเซ่"

การโจมตีในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากความสนใจที่มุ่งไปที่การโจมตีของยูเครน ต่อตำแหน่งป้องกันของรัสเซียทางตอนใต้และตะวันออก ในระยะแรกของการรุกคืบตอบโต้ของยูเครน ที่พยายามผลักดันกองทหารของ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ออกจากดินแดนที่ยึดได้ นับตั้งแต่การรุกรานยูเครนที่เริ่มขึ้นในเดือน ก.พ. 2565


ที่มา:

https://www.aljazeera.com/news/2023/6/20/russia-us-and-uk-fully-dragged-into-conflict-if-crimea-bombed?fbclid=IwAR0XeDpYWrVu5ZENqTTYYBtIPbVo9bMpeCWOjacqL93_kwwL7WXgV7VMIp0