นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ โดยเห็นว่าการเลือกวันอภิปราย วันที่ 18 ก.ย. เพียงวันเดียว คือการใช้เทคนิค ที่ไม่ควรนำมาใช้กับสภาผู้แทนราษฎร เพราะบุคคลที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดคือตัว พล.อ.ประยุทธ์เอง และพี่น้องประชาชนที่จะได้ทราบข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ ในการอภิปรายนอกจากจะเป็นการย้ำ ให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญแล้ว จะได้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่จะตามมา โดยเฉพาะในแง่ของนโยบาย การบริหารจัดการ เช่นการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติงบต่างๆ จะเป็นโมฆะเพราะนายกรัฐมนตรีดำเนินการไม่ครบถ้วนตามกระบวนการ ถือเป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรีต้องตระหนัก
นายจิรายุ กล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้จะเป็นทางออกให้กับรัฐบาล นำไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนาประเทศชาติได้เร็วกว่าที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี จะมาอ้างเหตุว่ามีภารกิจต่างๆ อาจกลายเป็น ต้นแบบที่ไม่ดี ต่อกระบวนการ บริหารราชการแผ่นดิน และจะกลายเป็นบรรทัดฐาน สำหรับคนที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในฝ่ายบริหาร
"ที่ผ่านมาจะเห็นว่านายกรัฐมนตรีสามารถบริหารจัดการภารกิจต่างๆเพื่อมา ร่วมประชุมของสภาฯได้ ซึ่งอาจจะมอบหมายภารกิจให้รัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ไปบริหารจัดการแทน ดังนั้นวันที่ 18 ก.ย. นี้ไม่ควรมีข้ออ้างเรื่องติดภารกิจและมาฟังบ้างไม่ฟังบ้าง ขอให้นายกรัฐมนตรีอดทนฟังเพื่อหาทางออกให้กับประเทศไทย" นายจิรายุ กล่าว