ไม่พบผลการค้นหา
ศาลนัดฟังพิพากษา กกต. แบ่งเขตเลือกตั้ง กทม. ผิดกฎหมายหรือไม่ 7 เม.ย. นี้ 'อรรถวิชช์' ยันหากต้องแบ่งเขตใหม่ ไม่กระทบวันเลือกตั้ง แต่วันรับสมัคร-ไพรมารีโหวต อาจเปลี่ยน

วันที่ 30 มี.ค. อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เดินทางไปยังศาลปกครองสูงสุด เพื่อเข้าฟังการไต่สวน จากกรณียื่นร้องขอให้ไต่สวนการแบ่งเขตเลือกตั้งของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เห็นว่าขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. หรือไม่ 

โดยภายหลังการเข้ารับฟังการไต่สวนกว่า 2 ชั่วโมง อรรถวิชช์ เผยว่า ศาลปกครองรับการไต่สวน และนัดอ่านคำพิพากษาวันที่ 7 เม.ย.นี้ ซึ่งประเด็นในวันนี้ ได้ยื่นข้อเท็จจริงให้ศาลทุกกรณี ว่าเป็นความจงใจของ กกต. ที่จะละลายเขตเลือกตั้งของ กทม. และส่อที่จะทำให้ความเป็นตัวแทนของ ส.ส. ที่มีต่อประชาชนมีปัญหาได้ 

โดยเฉพาะการที่ กกต. ใช้เกณฑ์สัดส่วนระหว่างราษฎร์ต่อ ส.ส. 1 คน คือ 10% แต่คำให้การของ กกต. มีการใช้เพียง 5% เท่านั้น ส่งผลให้ 33 เขต ของ กทม. มีเพียง 4 เขตที่คงเดิม และที่เหลืออีก 29 เขต นั้นเป็นเหมือนการสลายเขต ไม่ใช่วิถีทางของประชาธิปไตย

อรรถวิชช์ ยังยืนยันว่า การยื่นคำร้องครั้งนี้ จะไม่กระทบต่อวันเลือกตั้ง ในวันที่ 14 พ.ค.นี้แน่นอน แต่อาจกระทบต่อกรอบเวลาการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3-7 เม.ย.นี้ แต่หากจะต้องเลื่อนวันรับสมัครออกไปเป็นวันที่ 14-18 เม.ย.ก็ยังอยู่ในกรอบ ซึ่งก็ไม่กระทบกับการเลือกตั้ง แต่ท้ายที่สุดก็ขึ้นอยู่กับศาล ว่าจะพิจารณาอย่างไร หากเห็นว่า กกต. มีอำนาจเบ็ดเสร็จทำได้ การเลือกตั้งคราวต่อไป กกต. สามารถขยับตัวเลขเกณฑ์สัดส่วนประชากรต่อ ส.ส. 1 คนได้ตามอำเภอใจ

อย่างไรก็ตาม หาก กกต. ต้องแบ่งเขตใหม่ ไม่จำเป็นต้องแบ่งทั้งประเทศ อาจจะเป็นบางพื้นที่มีการยื่นคำร้อง เช่น กทม. สุโขทัย สกลนคร แต่ทั้งนี้ อาจจะกระทบต่อการทำไพรมารีโหวต ซึ่งส่วนตัวเคยเตือน กกต. ไปแล้ว