นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร และนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาฯ พร้อมด้วยผู้บริหารข้าราชการสภาฯ และสื่อมวลชน ได้ตรวจความพร้อมห้องประชุมสุริยัน ซึ่งเป็นห้องประชุมของ ส.ส. และห้องประชุมร่วมกันของรัฐสภา
โดยนายชวน กล่าวว่า วันนี้มาเพื่อดูความพร้อมเพิ่มเติม ซึ่งตามปกติมีการติดตามทุกสัปดาห์อยู่แล้ว และทราบว่าเรื่องระบบเสียงและระบบเสียบบัตรพร้อมใช้งาน อย่างไรก็ตาม ได้มีการหารือว่าสมมุติหากมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ห้องประชุมสุริยันจะพร้อมหรือไม่ พบว่าระบบท่อร้อยสายสำหรับการถ่ายทอดสดการประชุมยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันงานส่วนนี้ว่าไม่มีปัญหาแน่นอน ส่วนเรื่องเสียงออดเรียกประชุมนั้นต้องลดระดับความดังลง เพราะดังมากเกินไป เนื่องจากเรากดออดเพื่อให้ได้ยินภายในห้องประชุมเท่านั้น ส่วนภายนอกห้องประชุมควรมีระบบถ่ายทอดเสียงออกไป รวมทั้งห้องทำงานของ ส.ส. ก็ต้องพยายามทำให้เสร็จก่อนเปิดประชุมสมัยหน้า เพื่อให้ ส.ส. ได้มีห้องทำงานเป็นของตัวเอง ส่วนโครงภายนอกทั้งหมดต้องใช้เวลาอีกเป็นปี ซึ่งตามสัญญาก่อสร้างต้องเสร็จภายในปี 2563
เมื่อถามว่าจะมีการต่อสัญญาก่อสร้างเป็นครั้งที่ 5 หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนไม่เกี่ยวกับการต่อสัญญา และเป็นเรื่องของฝ่ายข้าราชการ แต่ก็ได้ติดตามทุกสัปดาห์ ทั้งนี้ ต้องทำให้เสร็จตามสัญญา ไม่ควรจะเปลี่ยนแปลงอีก เพราะถ้าต่อสัญญาอีกครั้งจะถูกวิจารณ์อย่างหนัก แต่อาจจะมีบางส่วนที่ล่าช้า อย่างระบบร้อยสายที่ทางเลขาสภาฯรายงานว่าหาผู้รับเหมายาก นอกจากนี้ ผนังด้านหลังบัลลังก์ประธานที่ยังโล่งอยู่นั้น มีงบหลายสิบล้านบาททั้งฝั่งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฏร โดยเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าได้มอบหมายให้ศิลปินเป็นผู้ออกแบบภาพด้านหลัง ถามต่อว่า ส.ส. มีห้องประชุมเป็นของตัวเองแล้วจะนัดประชุมสภาฯเพิ่มหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ทำได้ เพราะตามปกติเราจะนัดประชุมสภาฯนัดพิเศษ เพิ่มวันศุกร์อยู่แล้ว เพื่อเคลียร์ญัตติต่างๆ และตนคิดว่าก่อนเปิดสมัยประชุมสภา จะเชิญประธานคณะกรรมาธิการชุดต่างๆหารือถึงระบบว่าจะสะสางญัตติที่ค้างอยู่อย่างไรให้ทันกับสถานการณ์ ไม่ใช่ญัตติภัยแล้งมาพูดช่วงน้ำท่วม
ถามอีกว่าทำไมกฏหมายจึงผ่านสภาจำนวนน้อย ประธานสภาฯ ชี้แจงว่า ที่กฏหมายน้อยเพราะรัฐบาลส่งเข้ามาน้อย แต่กฏหมายที่เข้าสภาแล้วก็ผ่านทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ที่มีกฏหมายเพระตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 กำหนดให้ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน แต่ทราบว่าขณะนี้รัฐบาลได้ให้ทุกกระทรวงพิจารณากฏหมายของตัวเองและเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)โดยเร็ว เพื่อส่งต่อให้สภาฯในสมัยประชุมหน้า
ด้านนายสรศักดิ์ เปิดเผยว่า จำนวนที่นั่งในห้องประชุมสุริยัน 1,209 ที่นั่ง โดยแบ่งออกเป็นที่นั่งสำหรับส.ส. จำนวน 800 ที่นั่ง และส่วนของครม. 59 ที่นั่ง ส่วนชั้นลอยซึ่งเป็นที่สำหรับประชาชนที่เข้ามาเยี่ยมชมสภา อีก 350 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของส.ส.ยังสามารถเสริมเพิ่มได้อีก สำหรับกล้องวงจรปิด(ซีซีทีวี) ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งตามสเปคเดิมกำหนดไว้ 27 ตัว สำหรับค่าน้ำค่าไฟทั้งรัฐสภาต้องใช้งบประมาณถึงปีละ 425 ล้านบาท ดังนั้น ทางสภาฯจึงต้องหารายได้เข้ามา เนื่องจากสภามีห้องรับรองสามารถจุคนได้เป็นพันคน อาจให้ใช้เป็นสถานที่จัดสัมมนาหรือจัดงานแต่งงานได้ โดยทั้งหมดเตรียมของอนุญาตจากระทรวงการคลังแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :