การออกหมายจับปูตินในเดือน มี.ค.จาก ICC ส่งผลให้พริทอเรีย เมืองหลวงฝ่ายบริหารของแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดกลุ่ม BRICS (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้) ในปีนี้ ไม่สามารถต้อนรับการเดินทางเยือนของปูตินได้ เนื่องจากตามเขตอำนาจศาล ICC ที่แอฟริกาใต้เป็นสมาชิกนั้น นั้น ทางการแอฟริกาใต้ต้องจับกุมตัวปูติน เมื่อเดินทางมาถึงประเทศของพวกเขาทันที
“ใช่ พรรครัฐบาล… ได้ทำการตัดสินใจว่า เป็นการรอบคอบแล้วที่แอฟริกาใต้ควรถอนตัวจาก ICC” รามาโฟซากล่าวระหว่างการแถลงข่าว ซึ่งจัดร่วมกับ เซาลี นีนิสโต ประธานาธิบดีฟินแลนด์ ผู้เดินทางมาเยือนแอฟริกาใต้
รามาโฟซากล่าวว่า การตัดสินใจซึ่งเกิดขึ้นภายหลังการประชุมสุดสัปดาห์ของพรรค ANC ได้มีมติใน "ส่วนใหญ่" เนื่องจากมีการมองว่า สิ่งที่ศาล ICC มีอำนาจบังคับทางกฎหมายเหนือแอฟริกาใต้นั้น เป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมของบางประเทศ “เราต้องการให้มีการหารือเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมนี้อย่างเหมาะสม แต่ในขณะเดียวกัน พรรครัฐบาลได้ตัดสินใจอีกครั้งว่าควรจะมีการถอนตัวออกไป (จาก ICC)” ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้กล่าว
หมายจับต่อปูตินของ ICC เกิดขึ้นตามข้อกล่าวหาที่ว่า รัสเซียได้นำตัวเด็กยูเครนออกจากประเทศเข้าไปยังรัสเซียอย่างผิดกฎหมาย โดยในการสอบถามรามาโฟซาของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับว่า แอฟริกาใต้จะจับกุมปูตินหรือไม่ รามาโฟซากล่าวว่า “เรื่องนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณา”
แอฟริกาใต้ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจระดับภูมิภาค ปฏิเสธที่จะประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ที่ส่งผลให้รัสเซียถูกโดดเดี่ยวตัวเองออกจากเวทีระหว่างประเทศ โดยแอฟริกาใต้อ้างว่าพวกเขาต้องการวางตัวเป็นกลาง และต้องการการเจรจาเพื่อยุติสงคราม
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แอฟริกาใต้พยายามถอนตัวออกจาก ICC มีความพยายามในลักษณะเดียวกันนี้เมื่อปี 2559 หลังจากเกิดข้อพิพาทเมื่อปีก่อนหน้า หลัง โอมาร์ อัล-บาเชียร์ ประธานาธิบดีซูดานในขณะนั้น เดินทางเยือนประเทศเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสหภาพแอฟริกา (AU) โดยทางการแอฟริกาใต้ปฏิเสธที่จะจับกุมเขา แม้ว่าอัล-บาเชียร์จะมีหมายจับของ ICC ในข้อหาอาชญากรสงครามก็ตาม
อย่างไรก็ดี การตัดสินใจที่มีความขัดแย้งกันในครั้งนั้น ในการถอนตัวออกจาก ICC ของแอฟริกาใต้ถูกเพิกถอน เมื่อศาลในประเทศตัดสินว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ที่มา: