วันที่ 10 ก.พ.66 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน กกต. ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อขอให้วินิจฉัยว่า กรณีพรรคการเมืองและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคการเมืองต่างๆ ติดตั้งป้ายหาเสียงผูกติด ตอก มัด แขวนอยู่กับต้นไม้ เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติตามกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่
ทั้งนี้ต้นไม้ที่องค์กรปกครองท้องถิ่นปลูกหรือขึ้นเองตามธรรมชาติในบริเวณฟุตบาทหรือทางเท้าทั่วประเทศ และหรือต้นไม้ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติหรือกรมทางหลวงทำการปลูกขึ้นและดูแลรักษาในบริเวณเขตทางของกรมทางหลวงนั้น ถือได้ว่าเป็น “ทรัพยากรธรรมชาติ” ด้วย การที่พรรคการเมืองต่างๆในขณะนี้นำป้ายหาเสียงของพรรคการเมืองหรือผู้สมัคร ส.ส.นำไปติดตั้ง อิง แขวน หรือตอกยึดอยู่กับต้นไม้ยืนต้นไม่ว่าจะเป็นต้อนเล็กหรือต้นใหญ่ ทำให้ต้นไม้ต่าง ๆ เหล่านั้นอาจเกิดความเสียหายจากร่องรอยที่ติดตั้ง เป็นเหตุให้เชื้อโรคหรือแมลงสามารถเข้าทำลายต้นไม้ดังกล่าวได้ง่าย ทำให้โอกาสการเติบโตของตนไม้ต่างๆเหล่านั้นเติบโตได้น้อยลง ช้าลง หรือเกิดความเสียหาย หัก ผุกร่อน หรือตายในที่สุดได้ จะถือได้ว่า การติดตั้งป้ายหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นต้นเหตุของการทำลายทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ ตามนัยหรือความหมายตาม ม.45 แห่งพรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ได้
นอกจากนั้น ยังถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอื่นอีกหลายฉบับที่เกี่ยวข้อง อาทิ ม.38 ประกอบ ม.72 แห่งพรบ.ทางหลวง 2535 และ ม.10 ม.12 ม.19 ม.27 ม.39 ประกอบ ม. 52 แห่งพรบ.รักษาความสะอาดฯ 2535 ได้ และถึงแม้พรบ.รักษาความสะอาดฯ 2535 ม.10 วรรคสาม จะมีข้อยกเว้น มิให้ใช้บังคับกับการโฆษณาในการเลือกตั้งตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งก็ตาม แต่เนื่องจากในขณะนี้ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปแต่อย่างใด จะนำข้อยกเว้นของกฎหมายดังกล่าวมาเป็นข้ออ้างไม่สามารถทำได้
ดังนั้น การที่พรรคการเมืองต่างๆหรือว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองต่าง ๆ นำป้ายหาเสียงมาติดตั้งในบริเวณริมทางเท้า บริเวณต้นไม้ ของแต่ละองค์กรปกครองท้องถิ่น และหรือบริเวณเขตทางของกรมทางหลวงทั่วประเทศ ต้องทำหนังสือขออนุญาต และเสียค่าธรรมเนียมและค่าปรับ การขออนุญาตตามระเบียบที่ทางหน่วยงานนั้นๆกำหนดเสียก่อน หากไม่ยื่นขอฯจะถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายด้วยเช่นกัน
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงมายื่นคำร้องต่อ กกต.เพื่อให้วินิจฉัยเรื่องดังกล่าวให้เป็นข้อยุติ และขอให้นายทะเบียนพรรคการเมืองแจ้งไปยังพรรคการเมืองต่างๆ ในการขออนุญาตและเสียค่าธรรมเนียม ค่าปรับ การติดตั้งป้ายหาเสียงจากองค์กรปกครองท้องถิ่นและกรมทางหลวง ตาม ม.22 แห่ง พรบ.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 โดยเร็ว หากพรรคการเมืองฝ่าฝืนให้ดำเนินการลงโทษตามกฎหมายดังกล่าวโดยเด็ดขาดต่อไป