ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังอธิบดีกรมทางหลวงขอให้สั่งการไปยังผู้อำนวยการแขวงทางหลวงต่างๆ ทั่วประเทศ หลังมีป้ายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ติดอวยพรปีใหม่ 2565 อยู่ตามเสาไฟฟ้าริมถนนสำคัญ ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งได้รับการยืนยันจากแขวงทางหลวงสระบุรีแล้วว่า “ไม่ได้ขออนุญาต”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงหนองแค แขวงทางหลวงสระบุรี สำนักงานทางหลวงที่ 11 (ลพบุรี) ทำการเก็บป้ายที่ไม่ได้รับอนุญาต ในพื้นที่ ทล.1 ระหว่าง กม.95+000 – กม.103+000 เป็นช่วงๆ โดยมีป้ายอวยพรปีใหม่ ของ พล.อ.ประวิตร รวมอยู่ด้วย โดยอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของผู้ที่ใช้รถใช้ถนนสัญจรในบริเวณดังกล่าว
แต่ทว่าป้ายลักษณะดังกล่าว มิได้มีแต่เฉพาะในพื้นที่จังหวัดสระบุรีเท่านั้น หากแต่มีการติดกันในหลายพื้นที่ถนนสายหลัก ทั้งป้ายขนาดเล็กติดเสาไฟฟ้าและป้ายคัตเอ้าท์ขนาดใหญ่ ในบริเวณป้ายโฆษณาของเอกชน ซึ่งตาม พรบ.ทางหลวง 2535 และแก้ไขเพิ่มเติม 2549 จะต้องมีการขออนุญาตการติดตั้งจากผู้อำนวยการทางหลวงเสียก่อน แต่เมื่อไม่ได้มีการขออนุญาต ก็ย่อมเข้าข่ายความผิดตาม ม.38 วรรคสาม แห่งกฎหมายข้างต้น ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 5 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนั้น สมาคมฯยังทำหนังสือถึง รมว.มหาดไทย เพื่อสั่งการไปยังราชการส่วนท้องถิ่นต่างๆ ที่มีป้ายของ พล.อ.ประวิตร ติดตั้งอยู่ให้ดำเนินการเรียกเก็บภาษีป้ายด้วย เพราะป้ายที่ติดตั้งในพื้นที่รัฐและเอกชน โดยเฉพาะป้ายคัตเอ้าท์ขนาดใหญ่ จะต้องมีการขออนุญาตจากราชการส่วนท้องถิ่นนั้นๆ ที่มีป้ายติดตั้งอยู่ด้วย พร้อมกับต้องเสียภาษีป้ายตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวงเสียก่อนด้วย หากฝ่าฝืนมีโทษปรับตั้งแต่ 5 พันถึง 5 หมื่นบาท ตาม ม. 35 แห่ง พรบ.ภาษีป้าย 2510 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งเป็นหน้าที่ของ รมว.มหาดไทยที่จะต้องสั่งการไปยังราชการส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ให้ดำเนินการเรียกเก็บภาษีป้ายด้วย หากไม่ดำเนินการอาจเข้าข่ายความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ป.อ.157 ด้วย
ที่สำคัญ พล.อ.ประวิตร เป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล การกระทำดังกล่าวโดยไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมนั้น อาจเข้าข่ายความผิดเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงด้วย ซึ่งสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจะนำความไปร้องต่อ ป.ป.ช.ในลำดับต่อไป