องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะดูแลการเลือกตั้งพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ของพรรคฯ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้เรียกได้ว่าร้อยเปอร์เซ็นแล้วเพียงแต่รอการแบ่งเขตของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในพื้นที่ทั่วประเทศ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อย ทั้งนี้ในพื้นที่ กทม.จะมีทั้งหมด 33 เขต และเมื่อถึงวันนั้น ตนเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเคาะผู้สมัครได้ครบทั้ง 33 เขต เพราะตอนนี้มีผู้สมัครเกินกว่าจำนวนที่จะลงสมัครอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคค่อนข้างภูมิใจที่มีคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่มีความรู้ การศึกษาสูง มีความสามารถและประสบการณ์จำนวนมากมาร่วมงานเป็นผู้สมัครคุณภาพของประชาธิปัตย์ในพื้นที่ กทม.
ขณะที่ยุทธศาสตร์การเลือกตั้งที่จะนำไปสู่เป้าหมายชัยชนะในการเลือกตั้งพื้นที่ กทม. หลังจากที่เราไม่มี ส.ส. ใน กทม. เมื่อปี 2562 ตนเชื่อว่าคราวนี้จะได้ส.ส.ใน กทม.พอสมควร
"จากเดิมที่ไม่มีเลย คราวนี้ผมเชื่อว่าจากการทำงานหนัก 2-3 ปีที่ผ่านมา เชื่อมั่นว่าพี่น้องประชาชนในกรุงเทพ จะให้การสนับสนุน มอบความไว้วางใจให้เรา”
เมื่อถามว่า มั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่สูญพันธุ์ ใน กทม. อีกครั้งใช่หรือไม่ องอาจ ระบุว่า เราพยายามทำงานหนักเต็มที่เพื่อให้ได้ผลของการเลือกตั้งดีกว่าที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเราเคารพการตัดสินใจของประชาชน เพราะเสียงสุดท้ายที่จะตัดสินว่าเราจะมีโอกาสทำงานหรือไม่ขึ้นอยู่กับประชาชน ซึ่งเรามีหน้าที่เสนอตัว ทำงานหนักให้ประชาชน จากนั้นประชาชนก็จะเป็นผู้ตัดสินใจ
"เราก็หวังว่าประชาชนจะไม่ทอดทิ้งเรา หวังว่าประชาชนในกรุงเทพมหานคร จะให้การสนับสนุนเพื่อให้เราได้มีโอกาสกลับมาทำงานรับใช้เหมือนเดิมอย่างที่เคยทำมา ตลอดระยะเวลาหลาย 10 ปีที่ผ่านมา"
เมื่อถามว่า อะไรจะเป็นจุดขายทำให้คนกรุงเทพเลือกประชาธิปัตย์ องอาจ กล่าวว่า ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่ได้พิสูจน์ให้ชาวกรุงเทพเห็นมาหลายครั้ง ไม่ว่าท่านจะเลือกเราหรือไม่อย่างไรในการเลือกตั้งครั้งไหนก็ตาม แต่เราก็ยังทำงานหนักยืนหยัดให้ประชาชนมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นที่ผ่านมาถึงประชาชนจะไม่เลือกเรา ซึ่งในอดีตก็มีหลายครั้ง แต่การเลือกตั้งครั้งต่อๆไป ประชาชนก็ให้กลับมาสนับสนุนเรา นั่นแสดงให้เห็นว่า จากการที่เราตั้งใจทำงานหนัก ก็ทำให้ประชาชนกลับมามอบความไว้วางใจกับเราอีก ซึ่งก็เชื่อว่าครั้งนี้ประชาชนก็คงไม่ทอดทิ้งเรา
เมื่อถามว่า มั่นใจจะสู้กับศิษย์เก่าประชาธิปัตย์ที่ออกไปตั้งพรรคหรืออยู่กับพรรคอื่นได้หรือไม่ รองหัวหน้าพรรค ปชป. ระบุว่า ประชาธิปัตย์มีประสบการณ์เรื่องนี้มาตลอดระยะเวลา 70 กว่าปีของการตั้งพรรค มีทั้งคนที่เคยเป็นสมาชิกออกไปตั้งพรรคการเมืองใหม่เกือบตลอดเวลา 70 กว่าปี ซึ่งเราก็ต้องแข่งขันกันไปตามระบอบประชาธิปไตย ทุกพรรคก็มีหน้าที่เสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้ประชาชนพิจารณา ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะเสนอสิ่งที่ดีที่สุดเช่นเดียวกัน และการตัดสินใจสุดท้ายอยู่ที่ประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร
องอาจ เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้รับสัญญาณการยุบสภา ซึ่งยังไม่มีสัญญาณอะไร