นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย และ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ไลฟ์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงสร้างแฟลตตำรวจ 163 แห่ง และโรงพักทดแทน 396 แห่ง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่าวันนี้เป็นอีกวันที่เป็นตอนสำคัญตอนที่กล่าวหาว่าผมไปให้ความเห็นชอบรับราคาที่เขาประมูลได้แล้วอนุมัติ ให้ทำสัญญาว่าจ้างบริษัทที่ประมูลราคาได้ต่ำสุดและเป็นผู้รับจ้างก่อสร้างสถานีตำรวจทั้ง 396 แห่ง แล้วเป็นเหตุให้ผู้รับจ้างก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.กล่าวหาว่า เป็นความผิดของผม ที่ผมอนุมัติไป อนุมัติตามที่สตช.เสนอ แล้วไม่ใช่ว่าเขาเสนออะไรมาแล้ว จะอนุมัติตามเขาหมด แต่เขาเสนอมามีเหตุมีผล มีหลักฐานมีขั้นตอนการปฏิบัติชัดเจน
เมื่อผมอนุมัติวิธีการจัดจ้าง ตามที่ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เสนอ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2552 สตช.เขาก็ไปดำเนินการ ตามวิธีการตามขั้นตอนโดยชอบด้วยระเบียบกฎหมาย เขาแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลาง และคณะกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงาน หรือ ทีโออาร์ มีคำสั่งวันที่ 7 เม.ย. 2533 มีคณะกรรมการมากมาย เขาก็ไปทำงานกัน เป็นขั้นเป็นตอนได้ข้อสรุปซึ่งอ้างเลยว่า สิ่งที่เขาทำเป็นไปตามหนังสือของกระทรวงการคลัง เป็นไปตามระเบียบของสำนักนายกฯว่าด้วยการพัสดุ ด้วยวิธีการอิเลคทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 เป็นไป ตามหนังสือของกรมบัญชีกลางลงวันที่ 17 ก.พ.2549 และวันที่ 21 ก.ค.2549 คือเขาทำตามขั้นตอน สมัย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ พล.ต.อ.ปทีป เขาก็ทำแบบนี้
แขวะ 'พงศพัศ' เหตุใดหากรู้ว่าผิดจึงทำเฉย
นายสุเทพกล่าวต่อว่า พอเขาตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลาง กำหนดทีโออาร์เสร็จเขาก็ไปประกวดราคา โดยให้เขายื่นซองวันที่ 20 ก.ค.แล้วนัดมาทำการเสนอราคาแข่งขันกัน โดยวิธี e-auction ในวันที่ 29 ก.ค. 2553 บริษัทที่ทำหน้าที่คุมเกม คือ บริษัทสวนกุหลาบเซอรารี่ ซิลล์ จำกัด ได้ทำรายงานสรุปผลการประมูลทางอิเลคทรอนิกส์ (e-auction) ถึง ประธานคณะกรรมการดำเนินการประมูลด้วยระบบอิเล็คทรอนิกส์ บอกเลยว่าผู้มีสิทธิเข้าประมูล 5ราย ผู้มีสิทธิเข้าระบบการประมูล 5 ราย บอกเลยว่าทั้ง 5 รายได้ เคาะราคาแข่งขันกัน มีเอกสารหลักฐานคือเขาเคาะประมูลแข่งขันกันภายในครึ่งชั่วโมง 73 ครั้ง
จากราคาที่เสนอในครั้งแรก 6 พันกว่าล้านในที่สุดผู้ที่เสนอราคาต่ำที่สุดคือ 5 พันกว่าล้าน ต่ำกว่าราคากลาง 540 ล้านบาท เขาก็เสนอมายัง สตช. แล้ว สตช.โดย พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผช.ผบ.ตร ลงวันที่ 11 ส.ค. 2553 พอประมูลเสร็จ เขาก็ทำหนังสือผ่าน พล.ต.ท.พงศพัศ ว่า คณะกรรมการฯ ได้ดำเนินการตามระเบียบทุกอย่างแล้ว
จึงขอให้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงบประมาณขอทำความตกลงเรื่องวงเงินงบประมาณก่อสร้าง 5,848 ล้านบาท พล.ต.ท.พงศ์พัศ ลงนามแล้ว แล้วมาเจื้อยแจ้วว่าไม่รู้เรื่อง ไม่ได้เกี่ยวข้อง ตอนลงนามไปเมื่อรู้ว่าเขาทำผิด หรือว่ารู้แล้วก็ทำเฉย หรือว่าไม่เห็นด้วย ทำไมไม่พูดมีหน้าที่อยู่แล้ว เวลามาหาเสียงก็ใส่ผม เต็มที่เลยแถมให้พรรคเพื่อไทยไปฟ้องป.ป.ช.ซะด้วย
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า สตช.ทำหนังสือถือสำนักงบประมาณวันที่ 11 ส.ค.เพื่อขออนุมัติจัดสรรงบประมาณ เมื่อผ่านขั้นตอนมาอย่างนี้ สำนักงบประมาณก็ทำหนังสือตอบมาว่า สำนักงบฯ เห็นชอบในวงเงินดังกล่าว
ด้านพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.คนใหม่ คนนี้เป็นคนที่ 3 แล้ว นับจากพล.ต.อ.พัชรวาท,พล.ต.อ.ปทีป และ มา พล.ต.อ.วิเชียร เขาก็ทำหนังสือถึงผมเลยเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2553 ขอรับความเห็นชอบราคา ขออนุมัติ จ้างก่อสร้าง บรรยายมาเสร็จ เรื่องเดิมเป็นอย่างไร ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างไร เขียนไว้เลยว่า หากหัวหน้าหน่วยงานเห็นขอบให้แจ้งคณะกรรมการพิจารณาภายใน 3 วัน หากไม่เห็นชอบให้แจ้งเหตุผลชี้แจงให้กรรมการทราบภายใน 3 วันเช่นกัน และถ้าเห็นชอบก็ให้ขออนุมติจัดจ้าง
ย้ำมีหลักฐานเอกสารยืนยันชัด ทำตามระเบียบขั้นตอนถูกต้อง
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ก็อ้างระเบียบสำนักนายกฯ ว่าผมมีอำนาจที่จะให้ความเห็นชอบในราคาที่เขาประมูลได้ และอนุญาตให้จัดจ้างได้ก็เลยเสนอมามีข้อพิจารณาว่า สตช.พิจารณาแล้วเห็นว่าคณะกรรมกาประกวดราคาได้ดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยการพัสดุ ด้วยวิธีการอิเลคทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 และระเบียบที่เกี่ยวข้องแล้ว ผลการประกวดราคาปรากฎว่าบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเมนท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด เป็นเงิน 5,848 ล้านบาท ไม่เกินราคากลางของทางราชการ และวงเงินงบประมาณที่จะจัดจ้าง สำนักงบประมาณ ได้ให้ความเห็นชอบวงเงินค่าก่อสร้างสร้างสถานีตำรวจแล้ว 5,848 ล้านบาท จึงเห็นควรให้ดำเนินการดังนี้ 1.ให้ความเห็นชอบราคาค่าก่อสร้าง 2.อนุมัติจ้าง บริษัทพีซีซีฯ
ดังนั้นผมก็เห็นของตามที่เสนอ ไม่มีอะไรผิดเลย ประชาชนก็เห็นดูหลักฐานได้เลย ผมส่งเป็นหลักฐานเย็บเป็นเล่มมีครบเลยถ้าอนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช.ไม่มีอคติ มีความเป็นธรรม ดูเอกสาร ดูหลักฐานเหล่านี้ เรื่องนี้ยุติไปแล้ว แต่วันนี้ยังไม่ยุติ ผมจึงจำเป็นต้องออกมาเปิดเผย ผมจะเปิดรายละเอียดต่อไปอีก ว่าในข้อกล่าวหาหลักที่เขากล่าวหานี้ยังมีข้อกล่าวอ้างย่อยๆ อีก 9 ข้อ ผมก็จะทยอยนำมาบอกประชาชนเปิดเผยกันเลย ตรงไปตรงมาแล้วให้ประชาชนตัดสิน และผมกำลังมีความคิดพูดกับพี่น้องประชาชน มา 3 วัน
"ผมคิดว่าผมพิมพ์หนังสือ เล่มที่ชี้แจงต่อป.ป.ช.แล้วนั่งเปิดอ่านแล้ว ถ้าใครยังเถียงอีกก็จะได้เอาไปยันกัน ผมคิดว่าผมจะพิมพ์หนังสือแล้วจำหน่ายแล้วเอาเงินบริจาคให้ พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคการเมืองของประชาชน ผมตั้งใจทำอย่างนี้ และวันจันทร์ที่ 20 ส.ค.นี้จะไปชี้แจงต่อคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ และจะกลับมารายงานต่อประชาชนว่า เมื่อชี้แจงแล้วเขาฟังเหตุฟังผลไหม หรือเขามีหลักฐานที่พิเศษที่ผมไม่เคยทราบไม่เคยเห็นมาก่อนก็จะนำมาบอกประชานอย่างตรงไปตรงมา" นายสุเทพ กล่าว
อ่านเพิ่มเติม