จากกรณีเว็บไซต์ ifalpa.org ของสมาพันธ์นักบินนานาชาติ (International Federation of Air Line Pilots' Associations) หรือ IFALPA ได้ออกประกาศเตือนเรื่องความปลอดภัย (Safety Bulletin) เรื่องการใช้งานทางขับและทางขับเคลื่อนเข้าหลุมจอดอากาศยาน (Taxiway) and Taxilane) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ที่มีสภาพพื้นผิวอ่อน
พันตรีกมล วงศ์สมบุญ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายบำรุงรักษา) รักษาการแทนผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาเรื่องพื้นผิว Taxiway และ Taxilane มาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีแผนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
โดยในส่วนของการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น ทสภ. มีส่วนงานที่รับผิดชอบในการตรวจสอบสภาพพื้นผิวทางวิ่ง (Runway) ทางขับ (Taxiway) และลานจอดอากาศยานให้มีความปลอดภัยในการใช้งาน โดยจัดให้มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง และหากได้รับแจ้งหรือตรวจพบความชำรุดบกพร่อง จะทำการปิดพื้นที่เพื่อซ่อมแซมพื้นผิวอย่างเร่งด่วนในทันที
สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะกลาง ทสภ. จะมีการดำเนินการก่อสร้างซ่อมแซมพื้นผิวโดยเปลี่ยนชั้นวัสดุแอสฟัลต์เดิมให้เป็นวัสดุแอสฟัลต์ที่มีคุณภาพที่ดีขึ้นให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย โดยในปี 2560-2561ได้ดำเนินการซ่อมแซมแล้วในพื้นที่ ทางขับ(Taxiway) G และ C และทางขับเข้าสู่หลุมจอด(Taxilane) T8 และT12 และหากมีการตรวจพบพื้นที่ที่ชำรุดเสียหายจะดำเนินการปิดพื้นที่และเร่งดำเนินการซ่อมแซมพื้นผิวให้สามารถกลับมาใช้งานได้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการให้บริการแก่ผู้โดยสารและอากาศยาน
ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว ปัจจุบันทสภ. อยู่ในระหว่างทำการออกแบบการก่อสร้างซ่อมแซมพื้นผิวทางอากาศยานด้วยวัสดุปอร์ตแลนด์ซีเมนต์คอนกรีต ซึ่งเมื่อออกแบบแล้วเสร็จ ทสภ. จะได้มีการเปิดประมูลหาบริษัทผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการต่อไป ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องผิวทางของ ทสภ. อย่างถาวร
นอกจากนี้ ยังได้มีการทดลองติดตั้งระบบระบายน้ำใต้ดิน(Subdrain) ในการซ่อมพื้นที่ที่มีปัญหาพบว่าพื้นที่ดังกล่าวสามารถใช้งานด้วยดี และจะขยายการติดตั้งระบบดังกล่าวในพื้นที่อื่นที่มีปัญหาต่อไป และจากการดำเนินงานในระบบการจัดการด้านนิรภัยของสนามบิน (Safety Management System) ของ ทสภ.ซึ่งมีการเก็บสถิติการแตกของพื้นผิวและการแก้ไขโดยการปิดพื้นที่ซ่อมฉุกเฉิน พบว่าสถิติการตรวจพบพื้นผิวแตกมีแนวโน้มลดลง และการปิดซ่อมฉุกเฉินลดลง
ทั้งนี้ ในปัจจุบันยังไม่ตรวจพบเหตุการณ์อากาศยานโดน FOD จากพื้นผิวที่แตกร่อน แต่การปิดซ่อมพื้นที่อาจส่งผลต่อความคับคั่งการจราจรของอากาศยานที่ขับเคลื่อน และเพื่อให้เกิดความมั่นใจด้านความปลอดภัยของการใช้งานทางวิ่ง ทางขับ ทสภ. ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาคุณภาพผิวทางวิ่งทางขับและลานจอดอากาศยาน ทสภ.โดยมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินแห่งประเทศไทย บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด เพื่อรายงานและประเมินสถานการณ์ตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยของ ทสภ. ด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง