ไม่พบผลการค้นหา
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน สนับสนุนกฎหมายเปิดบัญชีทรัพย์สิน เชื่อช่วยตรวจสอบโกงได้จริง แม้สร้างภาระให้คนดี ห่วง 'คนร่างกฎหมาย' ชิ่งไขก็อก จี้ต้องทำเป็นแบบอย่าง

นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผย เป็นเรื่องดีที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เตรียมนัดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หารือผลกระทบจากประกาศให้นายกสภาและกรรมการสภามหาวิทยาลัย ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วย เพราะจะทำให้เกิดความเข้าใจระหว่างกัน และเห็นความสำคัญของการตรวจสอบการทุจริต เนื่องจากวิธีนี้อาจดูเหมือนใช้กฎหมายแบบเหวี่ยงแห จนสร้างภาระให้กับคนดี-คนสุจริต ที่ตั้งใจมาช่วยงานสถาบันการศึกษา โดยไม่หวังผลตอบแทน แต่ที่ผ่านมามีบทพิสูจน์แล้วว่า การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน สามารถใช้เป็นช่องทางเบื้องต้นในการตรวจสอบการทุจริตได้จริง

อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช. จำเป็นต้องชี้แจงให้ผู้ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ เข้าใจกระบวนการตรวจสอบหลังได้รับข้อมูลไปแล้ว รวมทั้ง ในระยะยาว ป.ป.ช. ควรปรับรูปแบบการยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ให้เกิดความสะดวก เข้าใจง่ายได้ ไม่ยุ่งยาก เพื่อลดภาระแก่ผู้ยื่น หรืออาจนำเทคโนโลยีสารสนเทศ มาประยุกต์ใช้ให้มากขึ้น เช่น การเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมสรรพากร, กรมที่ดิน และธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้ ป.ป.ช. สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ยื่น���ด้โดยตรง 

ส่วนกรณีที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่า "ผู้ร่างกฎหมายปราบโกง ชิงลาออกจากตำแหน่งนายกสภาฯ ไม่ยินยอมถูกตรวจสอบเสียเอง" นายมานะ กล่าวว่า น่าเป็นห่วง เพราะการตรวจสอบทุจริตจำเป็นต้องมีแบบอย่าง โดยเฉพาะชนชั้นปกครอง ต้องเสียสละ เปิดเผย และโปร่งใส เพื่อให้การตรวจสอบทุจริตเกิดขึ้นได้จริงในทุกระดับ