นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ระบุว่า กรณีกรมราชองครักษ์ชนะคดีเรียกค่าเสียหายจีที 200 จะเป็นบรรทัดฐานให้สังคมจับตาถึงการทำงานขององค์กรอิสระ ในการตรวจสอบเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
รวมถึงจะเป็นบรรทัดฐานที่องค์กรของรัฐ โดยเฉพาะกองทัพที่ได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงระดับโลกและการใช้งบประมาณแบบสูญเปล่านี้ ให้เดินหน้าเรียกร้องค่าเสียหาย ซึ่งหัวหน้าองค์กรปัจจุบันสามารถเอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในอดีตฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ได้ เพราะกฎหมายเปิดช่องไว้
นายมานะ ย้ำว่า กรณีจีที 200 เป็นการทุจริตที่ชัดเจน ทำให้ต้องทบทวนถึงขั้นตอนในการตั้งงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง ที่ละเลยและไม่ให้ความสำคัญกับการทดสอบถึงประสิทธิภาพการใช้งานของจีที 200 นี้ รวมถึงการเปิดเผยต่อสาธารณะโดยไม่มีข้ออ้างเรื่องความเป็นความลับของทางราชการ
เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ยังเรียกร้องให้องค์กรอิสระบังคับใช้กฎหมายกับทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ หลังเกิดเสียงวิจารณ์ว่าองค์กรอิสระไม่กล้าตรวจสอบบางบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ในอดีต เพราะในปัจจุบันดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล
ชี้ 'ทุจริตเงินคนพิการ' เหตุตั้งงบประมาณไม่เชื่อมโยงกับความเป็นจริง
ขณะเดียวกันนายมานะ ตั้งข้อสังเกตกรณีทุจริตเงินคนพิการ เกิดจากการขาดการตรวจสอบ และกลไกการตั้งงบประมาณของหน่วยงานต่างๆไม่มีความเชื่อมโยงกับความเป็นจริง รวมถึงการที่ผู้พิการไม่รับทราบข้อเท็จจริงถึงผลประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับ ซึ่งไม่ต่างจากการทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง
นายมานะ กล่าวต่อว่า ไม่แปลกใจกับการทุจริตที่เกิดขึ้นนี้ เพราะที่ผ่านมามีประชาชนร้องเรียนเข้ามาจำนวนมากเกี่ยวกับปัญหาการใช้จ่ายเงินกองทุนหมุนเวียน เงินอุดหนุนประเภทต่างๆ รวมถึงงบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ซึ่งกรณีนี้จะเป็นตัวอย่างให้ประชาชนทั่วไปที่เห็นถึงความไม่ถูกต้อง ออกมาเปิดโปงในสิ่งที่พบเห็นในโครงการอื่นๆ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตจะมีการเปิดโปงลักษณะเช่นนี้ออกมาอีกเป็นจำนวนมาก
เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ยังระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการระงับเงินช่วยเหลือผู้พิการและผู้ยากไร้เมื่อพบการทุจริตเกิดขึ้น ซึ่งเหมือนเป็นการลงโทษประชาชน แต่ควรดำเนินการจ่ายเงินต่อไปควบคู่กับการตรวจสอบการทุจริต ทั้งนี้หากใครกระทำการเช่นนั้นถือเป็นการกระทำที่เลวร้าย
ทั้งนี้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น อยากเห็นการเลือกตั้งที่โปร่งใส ทุกฝ่ายเล่นอยู่ในกฎกติกาอย่างเท่าเทียม ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบ ในขณะที่นักการเมืองต้องประกาศให้สัตยาบันต่อประชาชนให้ชัดเจน ว่าเมื่อได้อำนาจแล้วจะแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันอย่างไรเลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ยังประเมินการทำงานการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันของรัฐบาล คสช.ว่า ในช่วง 2 ปีหลังยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ไม่ขึงขังเหมือนในช่วง 2 ปีแรก การทำงานแผ่วลงไปอย่างเห็นได้ชัด