นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการ 'ช็อปช่วยชาติ' ที่เพิ่งสิ้นสุดไปเมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) ได้ผลตอบรอบที่ดี มีประชาชนซื้อสินค้าและบริการ เพื่อขอใบกำกับภาษีไปหักลดหย่อนภาษีในปีภาษี 2560 พร้อมระบุ ปลายปีนี้จะไม่มีมาตรการช็อปช่วยชาติ รอบสองอีก เพราะเป็นช่วงที่ประชาชน วางแผนการใช้จ่าย ตามเป็นปกติอยู่แล้ว
ส่วนมาตรการลดหย่อนภาษีจากการท่องเที่ยว นายสมชัย ระบุ ขณะนี้ กรมสรรพากร อยู่ระหว่างดำเนินการ เพราะเป็นมาตรการใหม่ที่ต้องการสนับสนุนให้คนท่องเที่ยวในเมืองรอง มากขึ้น
สำหรับมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ระยะที่ 2 จะเร่งดำเนินการให้เสร็จในเดือนนี้ (ธ.ค.) เพื่อแก้ปัญหาความยากจน ให้กับคน 11.4 ล้านคน คาดจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ภายใน 2 สัปดาห์
ด้านนายศรพล ตุลยะเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า มาตรการช็อปช่วยชาติที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน จนถึงวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงปลายปีได้อย่างมาก โดย สศค. ประเมินว่าจะมียอดการจับจ่ายใช้สอยประมาณ 18,000-20,000 ล้านบาท
ด้าน นางจิราพร ศรีสอ้าน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานส่งเสริมการตลาด บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมมีลูกค้าเข้ามาในศูนย์การค้าในเครือทั้ง 3 แห่งคึกคัก และมีการจับจ่ายสินค้าพร้อมกับมาออกใบกำกับภาษีเพิ่มขึ้น รวมกว่า 250,000 คนต่อวัน โดยใบเสร็จที่ออกใบกำกับภาษีแล้วมาแลกของรางวัลส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม, สินค้าแฟชั่น และเครื่องใช้ไฟฟ้าและเทคโนโลยี
ขณะที่นายอนุสรณ์ ธรรมใจ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ และคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ประเมินว่า มาตรการช็อปช่วยชาติมีผลต่อการกระตุ้นการใช้จ่ายและเศรษฐกิจค่อนข้างต่ำ โดยมีเม็ดเงินสะพัดไม่ถึง 10,000 ล้านบาท และส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายที่ต้องจ่ายตามปกติ ซึ่งจะทำให้เกิดการชะลอการบริโภคในระยะต่อไป