วันที่ 8 มี.ค. 2564 ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ อดีตประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอดีตนายทะเบียนสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ระบุในวันสตรีสากล ว่าในระยะเวลาเกือบสองปีที่ผ่านมาที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ซึ่งถือเป็นความท้าทายใหม่ของโลก บุคลากรทางการแพทย์คือ “คนแถวหน้า” ที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อไวรัส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ต้องการได้รับการสนับสนุนมากกว่าแค่อุปกรณ์ป้องกัน แม้ผู้หญิงจะร่วมทำงานเป็นแถวหน้าในการต่อสู้ไวรัสโควิด-19 แต่ยังนับเป็นสัดส่วนที่น้อยสำหรับตัวแทนผู้หญิงที่ร่วมกำหนดนโยบายและมาตรการรองรับการแพร่ระบาดของเชื้อโรคนี้ในระดับโลกและระดับประเทศ
จากรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO ) ระบุว่ากว่า 70% ของบุคลากรทางการแพทย์แถวหน้าใน 40 ประเทศทั่วโลก เป็นผู้หญิง ในขณะที่มีผู้หญิงเพียง 30% ของวงการทางการแพทย์ที่อยู่ในระดับที่สามารถตัดสินใจได้ จึงทำให้ผู้หญิงแถวหน้า ผู้หญิงค่อนข้างมีความเสี่ยงกับการติดเชื้อโรคสูง ในขณะเดียวกันยังคงมีภาระทางครอบครัวต้องดูแลพ่อแม่ และลูก กลับไม่ได้รับการสนับสนุนมากเท่าที่ควร อาทิ การลดภาระด้านการเลี้ยงดูบุตรในเวลาทำงาน แผนประกันสุขภาพเสริมของเด็กและผู้สูงอายุ การรักษาผ่านเทเลเมดิซีน เป็นต้น ซึ่งในประเทศไทยเองไม่เคยมีการศึกษาผลกระทบในมุมนี้เลย
เนื่องจากผู้หญิงมีทักษะความรู้ มุมมอง และการตัดสินใจของที่แตกต่างออกไป ผู้นำหญิงในหลายประเทศได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการจัดการไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เดนมาร์ก เอธิโอเปีย ฟินแลนด์ เยอรมันนี ไอซ์แลนด์ นิวซีแลนด์ และสโลวาเกีย ที่ประชาชนให้การยอมรับถึงความรวดเร็ว เด็ดขาด และสื่อสารข้อมูลสาธารณสุขกับประชาชนได้อย่างนิ่มนวลชัดเจน ในขณะที่
ชยิกา ระบุว่า ข้อมูลจากสหภาพรัฐสภาระบุว่า ในปี 2557 มีผู้หญิงได้รับการเลือกตั้งเข้าสู่สภาล่างเพียง 13 คนคิดเป็น 5.4% ของที่นั่งทั้งหมดเท่านั้น ทำให้โอกาสที่จะมีนโยบายหรือมาตรการเพื่อผู้หญิงลดลงตามไปด้วย สอดคล้องกับที่ดัชนีชี้วัดความไม่เท่าเทียมระหว่างเพศของสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ระบุ ความเหลื่อมล้ำของไทยรั้งท้ายอยู่อันดับที่ 93
“เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล ดิฉันในฐานะของคนเป็นแม่และผู้หญิงคนหนึ่งจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุน ส่งเสริม ให้ “ผู้หญิงแถวหน้า” ที่ต้องต่อสู้กับไวรัสร้ายนี้ ให้มีกำลังกายและกำลังใจในการรักษาพยาบาลประชาชนคนไทยให้รอดพ้นจากวิกฤตนี้ไปด้วยกันค่ะ #IWD2021 #InternationalWomensDay #ChoosetoChallenge”