รายงานข่าวจาก สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่า สัปดาห์หน้าทางสำนักงาน กกต.เตรียมเสนอเรื่องให้ที่ประชุมพิจารณาว่าจะประกาศรับรองให้ สุรชาติ เทียนทอง ผู้ได้รับเลือกตั้งจากพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็น ส.ส.กทม.เขตเลือกตั้งที่ 9 แทนตำแหน่งที่ว่างหรือไม่ เนื่องจากในวันที่ 30 มีนาคมนี้ จะครบกำหนดระยะเวลา 60 วันตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ นอกจากมีประเด็นคำร้องของ สิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นขอให้ตรวจสอบกรณีขึ้นป้ายหาเสียงว่า "รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ลดรายจ่ายประชาชน" แล้วนั้น ยังมีกรณีที่ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่น กกต.ขอให้ตรวจสอบว่า สุรชาติเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ด้วย
ทั้งนี้ เรืองไกร ยื่นร้องว่าจากการตรวจสอบเว็บไซต์ของสำนักงาน กกต.เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 พบว่า สุรชาติ เป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทยตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2552 แต่จากการตรวจสอบกูเกิลพบข่าวเว็บไซต์มติชน เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 หัวข้อ "สุรชาติ เทียนทอง" เข้าพิธีอุปสมบทมุ่งสู่ทางธรรม ป๋าเหนาะ - ส.ส.- แม่ยก ร่วมงานบุญอย่างคึกคัก จึงมีมูลเหตุตรวจสอบว่า การบวชเพื่อศึกษาธรรมะนั้นจะทำให้ สุรชาติขาดจากความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ตามข้อบังคับพรรค พท. ข้อ 16(3) ประกอบข้อ 12(4) หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ข้อ 16(3) ระบุว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสิ้นสุดลง เมื่อขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 11 หรือข้อ 12 กรณีเว้นแต่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 12(4) และเป็นการบวชตามประเพณีนิยม แต่ในระหว่างมีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวจะใช้สิทธิในฐานะสมาชิกมิได้ และข้อ 12(4) ระบุว่า บุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เป็นสมาชิก
อย่างไรก็ตาม หาก กกต.ตรวจสอบว่า สุรชาติ บวชเพื่อศึกษาธรรมะ จะเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกพรรคเพื่อไทย สิ้นสุดลงหรือไม่ และการที่พรรคเพื่อ ส่ง สุรชาติ ลงสมัคร ส.ส.เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2565 จะเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ด้วยหรือไม่