งานวิจัยชิ้นใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสนตร์ AHA ชี้ว่า สรรพคุณของกัญชามีผลกระทบต่อหัวใจ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือภาวะหัวใจวายและสโตรกได้
'ดร.โรส มาเรีย โรเบิร์ตสัน' ผู้รักษาการหัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์และแพทย์ประจำสมาคมหัวใจแห่งชาติอเมริกา กล่าวว่า สมาคมหัวใจแห่งชาติอเมริกาแนะนำประชาชนไม่ดูด หรือ สูบสสารต่างๆ แบบไอน้ำรวมถึงผลิตภัณฑ์จากกัญชา เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการทำลายสุขภาพของหัวใจ ปอดและหลอดเลือดในร่างกาย
งานวิจัยชิ้นนี้พบว่า การใช้กัญชาในการรักษาทางการแพทย์นั้นอาจส่งผลให้่เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือ โรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ เช่น ภาวะหัวใจวายและสโตรกได้เช่นกัน ทั้งนี้ทางทีมวิจัยแนะนำว่า หากมีความประสงค์ที่จะใช้กัญชาควรปรึกษาในเรื่องความเสี่ยงต่อร่างกายกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพก่อน
"หากผู้ใดเลือกที่จะใช้กัญชาเพื่อการรักษาทางการแพทย์ หรือ การใช้เพื่อสันทนาการ ควรสอบถามรายละเอียดของจำนวนที่สามารถใช้ได้ ซึ่งอาจจะลดความเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ" โรเบิร์ต เพจ หนึ่งในนักวิจัยของทีมวิจัยกล่าว
นอกจากนี้ทางทีมวิจัยยังเน้นย้ำว่า การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนั้นมีความสำคัญ เนื่องจากผลิตภัณฑ์กัญชาที่ถูกกฎหมายยังไม่มีการควบคุมคุณภาพ หรือ การควบคุมสรรพคุณของกัญชาที่ขายในท้องตลาดและปัจจุบันในสหรัฐอเมริกามีผลิตภัณฑ์จาก CBD ที่ผ่านการรับรองขององค์การอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯเพียงผลิตภัณฑ์เดียวเท่านั้น
ภาวะแทรกซ้อนที่กระทบต่อหัวใจ
งานวิจัยบางชิ้นค้นพบว่า การใช้กัญชานั้นส่งผลให้จังหวะการเต้นของหัวใจมีความผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดขึ้นภายใน 1 ชั่วโมง หลังจากที่มีการสูบสารเตตร้าไฮโดรแคนนาบินอล (THC) ซึ่งเป็นสารประกอบที่อยู่ในกัญชาและทำให้ช่วยผ่อนคลายและ 'เก็ทไฮ' (Get high)
ที่ผ่านมางานวิจัยเหล่านี้ชี้ว่า สาร THC สามารถก่อให้เกิดภาวะหัวใจที่เต้นเร็วกว่าปกติ ความต้องการออกซิเจนเพื่อการสูบฉีดเพิ่มมากขึ้น ผนังหลอดเลือดหัวใจบางลงรวมถึงก่อให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง
โรเบิร์ต เพจ ศาสตรจารย์ด้านเภสัชศาสตร์จาก University of Colorado Skaggs กล่าวว่า ควันของกัญชานั้นมีส่วนประกอบที่คล้ายคลึงกับควันบุหรี่ โดยผลการศึกษาชี้ว่า ควันบุหรี่มีส่วนช่วยเพิ่มก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และสารทาร์ในร่างกายเช่นเดียวกับผู้ที่สูบกัญชา ซึ่งจะก่อให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก ภาวะหัวใจวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะและอาการที่เกี่ยวข้องกับหัวอื่นๆ
สำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจ การสูบกัญชายิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการหัวใจวาย การเกิดภาวะสโตรกและหัวใจล้มเหลวมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ในงานวิจัยของสมาคมหัวใจฯ ระบุว่า การใช้กัญชานั้นอาจก่อให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ อัตราการเต้นของหัวใจที่ช้าลดและลดอาการอักเสบต่างๆ ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบและนำไปสู่การเป็นโรคหัวใจและสโตรก
อย่างไรก็ตามทีมวิจัยระบุว่า งานวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกัญชาและความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจนี้เป็นการศึกษาทางแพทย์ในระยะสั้นเท่านั้นและยังเป็นการคาดเดาความเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดโรคหัวใจ ซึ่งในระยะยาวยังไม่มีการพิสูจน์ถึงผลกระทบของการใช้กัญชาและความปลอดภัยต่อหลอดเลือดหัวใจ
นอกจากนี้ทางทีมวิจัยยังเรียกร้องให้ องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) จัดให้ 'กัญชา' เป็นสิ่งที่ต้องควบคุมเช่นเดียวกับยาสูบ
ปัจจุบันทั่วโลกผ่านกฎหมายให้มีการใช้กัญชาได้อย่างถูกต้องทั้งในเชิงการแพทย์และในเชิงสันทนาการ เช่น แคนาดา สหรัฐอเมริกาในบางรัฐ และอุรุกวัย ขณะที่ประเทศไทยเมื่อปี 2562 มีการผ่านกฎหมายให้สามารถใช้กัญชาได้ในทางการแพทย์เท่าน้้น
ที่มา CNN