วันที่ 4 ก.ย. ที่อาคารรัฐสภา มนพร เจริญศรี เผยถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยทั้ง 17 คน ที่มี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม โดย เศรษฐา กล่าวในที่ประชุมว่า ต้องเป็นรัฐบาลของประชาชน ต้องใกล้ชิดกับ สส. ไม่ใช่ว่าเป็นรัฐมนตรีแล้วจะไม่พูดคุยกับ สส.เลย ต้องรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาของประชาชน
"ตรงไหนที่ติดระเบียบ ต้องแก้ไขระเบียบ นโยบายใดที่เร่งด่วน สัญญากับประชาชนไว้ ห้ามบอกว่าทำไม่ได้ ต้องทำให้ได้ ติดกฎหมาย แก้กฎหมาย ติดระเบียบ แก้ระเบียบ ติดที่คน เปลี่ยนคน" มนพร กล่าว
ส่วนการทำการบ้านเรื่องนโยบายทั้งระยะสั้น และระยะยาว มนพร กล่าวว่า ขอให้เป็นหลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน ในช่วงแรกจะขับเคลื่อนนโยบายที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ ขอให้รอนายกฯ แถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 11 ก.ย. นี้
มนพร ยังกล่าวว่า ไม่กดดัน พร้อมทำงานอยู่แล้ว เพียงแต่เวลานี้เป็นช่วงรอยต่อของการจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และช่วงพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ขณะเดียวกัน เราก็ทราบว่าในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ประชาชนกำลังประสบปัญหา
ส่วนวันที่ 6 ก.ย. นี้ จะเป็นการประชุม ครม. นัดพิเศษ เกี่ยวกับนโยบายที่เตรียมจะแถลงต่อรัฐสภาเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งต้องหารือกันก่อนตามแต่ละนโยบายที่พรรคการเมืองหาเสียงไว้ จะบรรจุในนโยบายของรัฐบาลอย่างไร รวมถึงนโยบายแต่ละด้านที่แต่ละกระทรวงต้องรับผิดชอบและทำความเข้าใจภายใต้กรอบการทำงาน 4 ปี
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมยังไม่ได้มีเงื่อนไขเรื่องการแบ่งงานในกระทรวง รอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมอบหมาย ส่วนตัวทำได้หมด เพื่อผลงานของกระทรวงและรัฐบาล และประโยชน์ของประชาชน
"ประชาชนไม่ได้เลือกเรามาให้เราไปมีเงื่อนไขตรงนั้นตรงนี้ พรรคเพื่อไทยก็เหมือนกัน บอกให้ทำงานประสานผลประโยชน์ให้ประชาชน"
กรณีที่กระทรวงคมนาคมในสมัยที่ผ่านมา ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเยอะพอสมควร จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร นางมนพร ระบุว่า ประเด็นดังกล่าวจะถือเป็นโจทย์ ที่จะเอาประสบการณ์สมัยเป็นฝ่ายค้าน ได้อภิปรายปัญหาเรื่องใดบ้าง เมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาล ก็จะต้องติดตามปัญหา และใช้กลไกในการแก้ไข