ไม่พบผลการค้นหา
โฆษกรัฐบาล ถือฤกษ์ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ยืนยัน ไม่หนักใจปะทะคารมฝ่ายการเมือง ยืดหลักอดทน ขอสื่อเป็นกำลังใจนักการเมืองหน้าใหม่ พร้อมรับลูกดีอี ตั้งศูนย์เฟกนิวส์

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกรัฐบาล ถือฤกษ์ 7.29 น. เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำทำเนียบรัฐบาล เริ่มจากการสักการะท้าวมหาพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนลงมาสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย เพื่อความเป็นสิริมงคล

พร้อมกับเปิดเผยว่า เบื้องต้นนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้เป็นตัวแทนชี้แจงเรื่องต่างๆ ด้วยภาษาที่ชัดเจนเข้าใจง่าย พร้อมขออย่าพูดให้เป็นนักวิชาการเกินไป เพราะผู้ฟังเป็นชาวบ้าน เช่น เรื่องของผลงานรัฐบาล ที่อยากจะให้เล่าให้เห็นถึงความเชื่อมโยงการทำงานระหว่างกระทรวงต่างๆ ว่าได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว แล้วต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร 



นฤมล.jpg


ส่วนตัวไม่หนักใจถึงการปะทะวาทะกรรมทางการเมือง เพราะตั้งใจจะตอบคำถามในเชิงสร้างสรรค์ แต่คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอแรงปะทะ ซึ่งจะพยายามอดทน แต่ต้องขอกำลังใจจากพี่น้องสื่อมวลชน พร้อมย้ำว่าจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ และขอเป็นกำลังใจให้นักการเมืองหน้าใหม่คนนี้ด้วย รวมถึงนักการเมืองอื่นๆ ที่จะได้กล้าเข้ามาช่วยงานส่วนรวม และกล้าที่จะเผชิญปัญหาต่างๆ พร้อมยืนยัน จะทำการเมืองใหม่ในประเทศไทยเชิงสร้างสรรค์ 

ส่วนเหตุผลของการลาออกจาก ส.ส.เพื่อมารับตำแหน่ง เพราะผู้ใหญ่เห็นว่า น่าจะเหมาะกับงานลักษณะนี้ และเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อก็ไม่กระทบอะไร เพียงแค่คิดว่าเป็นอีกบทบาทหนึ่ง และไม่เสียดายบทบาทในงานสภา 

นางนฤมล ยังกล่าวว่า สำหรับตำแหน่งรองโฆษกรัฐบาล ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสาน และนายกรัฐมนตรียังไม่ได้บอกอะไร ยังไม่ได้เห็นชื่อของใคร เพราะกำลังอยู่ระหว่างพิจารณา ส่วนสเปกของรองโฆษกรัฐบาล จะเป็นแบบไหนก็ได้ ซึ่งเมื่อถามว่า สัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ว่าจะเป็นนายธนากร วังบุญคงชนะ ที่จะได้เข้ามาเป็นรองโฆษกรัฐบาลหรือไม่ ก็ยังไม่ทราบ

โฆษกรัฐบาล.jpg


ทั้งนี้ อยากให้ทีมโฆษกรัฐบาล รวมกันทำงานอย่างสร้าางสรรค์ ไม่ตอบโต้ในลักษณะทะเลาะเบาะแว้ง รวมถึงเปิดกว้างให้ฝ่ายที่เห็นต่างได้แสดงความคิดเห็น และเราต้องรับฟัง 

นอกจากนี้ ยังระบุว่า รัฐบาลพร้อมร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ กระทรวงดีอีจัดตั้งศูนย์เฟกนิวส์ ซึ่งที่ผ่านได้หารือกับนายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มาโดยตลอดก่อนเข้ารับตำแหน่ง เพราะจะต้องบูรณาการร่วมกับสำนักโฆษก เนื่องจากการสื่อสารในปัจจุบัน ไม่ได้มีเพียงสื่อสาธารณะเพียงอย่างเดียว แต่มีสื่อโซเซียลมีเดียที่เข้ามาทบบาทมากขึ้น ซึ่งโอกาสเกิดข้อมูลลวงเกิดขึ้นได้มาก 

ส่วนแนวทางการป้องกันนั้น หากเป็นแนวความเห็นที่ต่างกันรัฐบาล แต่ไม่ใช่เรื่องที่บิดเบือนหรือหลอกลวงก็คงไม่เป็นไร เพราะคงเป็นความเห็นต่าง และเป็นอิสรภาพทางความคิด แต่ถ้าเป็นการสร้างเรื่องปลอมขึ้นมา ถือว่าไม่เกิดประโยชน์กับสังคมแน่นนอน  

อย่างไรก็ตาม คณะทำงานศูนย์เฟกนิวส์ ที่ตั้งขึ้นก็ไม่ใช่ภาครัฐเข้าไปกำกับ แต่จะเป็นองค์กรกลาง ซึ่งเป็นตัวแทนจากสื่อมวลชนจากหลายภาคส่วน ที่มีภาครัฐและภาคเอกชน มาร่วมกันพิจารณาข่าว และไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะในต่างประเทศก็มีแล้ว ส่วนแนวทางของศูนย์จะเหมือนกัน ตำรวจไอทีหรือไม่นั้น นางนฤมล ชี้แจงว่า ต้องให้สื่อมวลชนไปสอบถามรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อีกครั้งหนึ่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :