วันที่ 22 พ.ค.ที่ รพ.พริ้นสุวรรณภูมิ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดง และผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษมูลนิธิร่วมกตัญญู พา แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ ศิลปินลูกทุ่งเจ้าของฉายา ‘เทพบุตรเสียงดี’ ที่เคยโด่งดังในช่วงปี พ.ศ.2521-2554 ด้วยเพลงแห่ขันหมาก, รักสาวเสื้อลาย และเพลงหิ้วกระเป๋า เข้าเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลเพื่อรับการผ่าตัดรักษาดวงตาในโครงการ ‘แพทย์ผู้ให้’ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หลังจากลงพื้นที่กับ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ และอาสาร่วมกตัญญู ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากการระบาดของโควิด-19 โดยแสงสุรีย์เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทำให้ขาดรายได้เป็นระยะเวลากว่า 2 เดือน อีกทั้งดวงตาข้างขวายังมีภาวะการมองเห็นที่ลดลง ร่วมกับข้อจำกัดต่างๆ ทำให้เป็นอุปสรรคในการเข้ารับการรักษา ส่งผลให้การใช้ชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ทั้งนี้ ดารานักแสดงจิตอาสาที่ได้รับการยกย่องว่า ‘เทวดาเดินดิน’ จากการลงพื้นที่แจกเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.อุบลราชธานี และผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังวางแผนที่จะเข้าไปปรับปรุงบ้านให้กับนักร้องลูกทุ่งขวัญใจของเขาอีกด้วย เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสมฐานะศิลปิน รางวัลโล่ห์พระราชทาน กึ่งศตวรรษลูกทุ่งไทยครั้งที่ 2 พ.ศ.2524 ประเภทขับร้องลูกทุ่งดีเด่น จากเพลงหิ้วกระเป๋า อีกทั้งยังร้องเพลงช่วยสร้างความสุขให้กับผู้คนมายาวนาน และถือโอกาสตอบแทนบุญคุณที่เคยเอาเพลงมาขับร้องโชว์ตัวมาตลอดหลาย 10 ปี
“เมื่อก่อนผมไปโชว์ตัวที่ไหนก็แล้วแต่สาวเสื้อลาย หิ้วกระเป๋า ผมจะร้องประจำ เรียกว่าเอาเสียงเพลงและเสียงนักร้องของพี่แสงสุรีย์ไปใช้มาตลอดหลาย 10 ปี จนกระทั่งวันหนึ่งผมได้เจอพี่แสงสุรีย์ผมต้องตอบแทนบุญคุณที่เอาเพลงพี่เขาไปร้อง และคิดว่าผมจะต้องดูแลพี่เขาต้องช่วยเหลือเขาจนกระทั่งวันนี้พามารักษาเรื่องตา ทางโรงพยาบาลบอกว่าจะรักษาให้ฟรี บอกคุณบิณฑ์มาเลยนะครับ ผมรู้สึกซาบซึ้งมากเลย คิดว่าอีกไม่เกิน 2-3 อาทิตย์ทุกอย่างน่าจะเรียบร้อย"
"เรื่องการมองเห็นเป็นเรื่องของคุณหมอแล้ว ส่วนผมจะช่วยเหลือดูแลเรื่องความเป็นอยู่จะช่วยทำให้ดีขึ้น ทราบว่าบ้านของที่พี่เขาอยู่เมื่อก่อนเป็นบ้านเช่า อยู่มานานจนเจ้าของบ้านเขายกให้แล้ว ผมก็จะเข้าไปปรับปรุงให้มัดีขึ้น ให้สมกับเป็นบ้านของนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง เอาความเป็นอยู่ให้ดี มีห้องนอน ห้องน้ำ ห้องรับแขก อีก 2-3 เดือนข้างหน้าจะเห็นความเปลี่ยนแปลง”
ทั้งนี้นอกจาก แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ แล้ว บิณฑ์ เชื่อว่า ยังมีศิลปินนักร้อง และดารารุ่นเก่า มีความเป็นอยู่ที่อัตคัดอีกหลายคน แต่อาจจะยังไม่กล้าแสดงตัว หรือออกมาขอความช่วยเหลือ
“เขาเป็นนักร้องที่โด่งดังมากนะสมัยก่อน อย่างพี่แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ ใครจะรู้ว่าจะอยู่อย่างนี้ แต่พี่เขากล้าที่จะบอกว่าเฮ้ยมันคือความจริงนะโควิดมาทุกอย่างมันจบหมดเลย เคยมีเงินร้องเพลงวันละ 2-3 พัน วันละ 5 พัน วันละ 1 หมื่น แต่ตอนนี้ 2 เดือน ผ่านมาไม่มีที่จะไปร้อง ไม่มีใครให้ร้องมันก็หมดสิครับ เพราะฉนั้นนักร้องเก่าที่อยู่สภาพอย่างนี้บอกผมเถอะครับ ผมจะเก็บไว้เป็นความลับ จะให้ผมช่วยเหลือเรื่องที่อยู่ จะให้เช่าบ้านหรือจะเป็นเรื่องเงินในการช่วยเหลือเบื้องต้นผมก็ยินดีที่จะช่วย อย่างวันนั้นที่ผมไปถ้าผมไปเจอ (แสงสุรีย์) ต่างหากของผมนะหมื่นนึงผมไม่ให้พี่เขาหรอก แต่ผมให้มากกว่านั้น แต่ ณ วันนั้นเข้าไปผมให้ครอบครัวละ 500 บาท แต่ไปเจอพี่เขามันก็ต้องมากกว่าพิเศษกว่า เพราะว่าคือขวัญใจของผม เดี๋ยวผมจะไปดูที่บ้านของพี่เขาว่าจะทำอะไรได้บ้าง อย่างน้อยต้องเป็นแสนอยู่แล้ว ”
แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ กล่าวว่า เรื่องดวงตาเริ่มมีปัญหาอย่างมากเมื่อเดือน ก.พ. ไปตรวจคือเลนส์ตาหลุด โชคดีที่บิณฑ์และเอกพันธ์มาเจอก่อน ดีใจหวังจะได้ชีวิตใหม่กลับมามองเห็นปกติอีกครั้ง ล่าสุดได้แต่งเพลงและบันทึกเสียงเพื่อขอบคุณคนที่ให้การช่วยเหลือ ตั้งชื่อเพลงว่า ‘ชีวิตของแสงสุรีย์’ เนื้ท่อนหนึ่งร้องว่า “พบบิณฑ์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ มาช่วยชีวิตตอนที่ผมตกต่ำระกำมากกว่าใคร” คิดว่าอาจต่อยอดสร้างรายได้ให้นิดหน่อย ส่วนตัวไม่เคยคิดเปิดบัญชีและรับบริจาคจากที่อื่น เพราะกลัวคนจะหาว่าสร้างภาพ มีบางคนที่ไม่เชื่อเราว่ามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก แต่ก็ไม่น้อยใจคนที่มองแบบนี้
“ไปตรวจที่โรงพยาบาลที่มหาชัย หมอบอกว่าเลนส์ตาหลุด มองไม่เห็นเดินไปไหนก็สะดุด อยากบอกเจ้านายทั้งสองคนนะครับ (บิณฑ์-เอกพันธ์) ที่ได้ช่วยเหลือผมในครั้งนี้ เหมือนกลับช่วยให้ผมมีชีวิตใหม่ รู้สึกดีใจมากเลย ถ้าเรามองเห็นอะไรมันก็จะสะดวกขึ้น มีคนบอกว่าทำไมไม่เปิดบัญชี ผมไม่เปิดหรอกครับ จะหาว่าเราสร้างภาพเกินไป ที่พูดอย่างนี้ก็มีส่วนน้อย ที่พูดว่าน่าสงสารมีความเป็นอยู่อย่างนี้จริงๆ มีมากกว่า ไม่น้อยใจหรอกครับเขาไม่เข้าใจไม่รู้ว่าผมยากจนจริงๆ เงินที่ได้มาเมื่อก่อนก็ใช้หมดไป มันก็หลายปีแล้ว เป็นนักร้องรุ่นเก่าแล้วตกแล้ว อยากจะบอกว่าให้คิดใหม่มองดูดีๆ ผมไม่ได้สร้างภาพครับ ที่เจ้านายเข้าไปในบ้านผมที่เห็นเป็นกระท่อมผมอยู่ในกรุงเทพฯ มันคือเรื่องจริงครับ”
ด้าน นพ.วรัญญ์ เทียนส่ง ผอ.รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาลได้ทราบข่าวการเจ็บป่วยของแสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ เกี่ยวกับการมองเห็นที่ลดน้อยลง จึงต้องการให้ความช่วยเหลือ โดยได้รับเข้าเป็นคนไข้ของโรงพยาบาล ซึ่งทางโรงพยาบาลมีความพร้อมในการตรวจวินิจฉัยและทำการรักษา เพื่อให้ศิลปินลูกทุ่งชื่อดังในอดีตได้มีระดับการมองเห็นที่ดีขึ้น เพื่อได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขอีกครั้ง โดยทางโรงพยาบาลไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เบื้องต้นทราบว่าคนไข้มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน จากนี้ทีมแพทย์จะทำการตรวจม่านตา และเตรียมร่างกายให้พร้อมเพื่อเข้ารับการผ่าตัด คาดว่าน่าจะในวันอังคารที่ 26 พ.ค.นี้ ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 2-3 ชั่วโมง